จากกรณีที่ ผศ. ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิทย์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ หรือ นิด้าได้โพสต์เฟสุบ๊ก สนับสนุนการรัฐประหาร และเรียกร้องให้มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มฝ่ายซ้ายให้สิ้นซาก โดยระบุว่าจำเป็นต้องรุนแรงแบบเหตุการณ์ 6 ต.ค.19
ดร.อานนท์ โวย! เจอกลุ่มหนุนม็อบราษฎรรับน้องด้วยการรีพอร์ตบัญชี หลังสมัครเล่นทวิตเตอร์ครั้งแรก
ดร.อานนท์ ห่วง รุ้ง ปนัสยา เรียนไม่จบ ชี้หากถูกขังคุกอาจช่วยให้เรียนจบ
ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวของดร.อานนท์ทำให้บรรดาชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยล่าสุดก็ได้มีการผุดแคมเปญล่ารายชื่อผ่านทางเว็บไซต์ Change.org เรียกร้องให้สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ดำเนินการสอบสวนทางจริยธรรมดร. อานนท์ว่าสอดคล้องตามมาตรฐานจริยธรรมวิชาชีพขององค์กรหรือไม่ หากพบว่าฝ่าฝืนมาตรฐานขององค์กร ก็ให้มีการดำเนินการตามบทลงโทษขององค์กร เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นต่อไป โดยเมื่อเวลา 15.18 น. มีผู้ร่วมลงรายชื่อแล้วกว่า 10,473 รายชื่อ (ผู้ที่สนในลงชื่อ คลิ๊กที่นี่)
พร้อมกับได้มีการระบุว่าข้อความที่เป็นปัญหา 2 โพสต์ดังนี้
1. “ขอยืนยันว่าไม่ช้าก็เร็ว ด้วยแรงกดดันแตกแยกในประเทศเช่นนี้ ไม่ช้าก็เร็ว จะเกิดรัฐประหาร และจะเกิดความรุนแรง เป็นไปตามทฤษฎีและตามธรรมชาติ การกวาดล้างพวกสามกีบจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ไม่มีทางเป็นอื่น จงรอดูเถิด ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ได้เห็นแน่ๆ ถ้ายังยุแยงตะแคงรั่วมุ่งหมายจะล้มเจ้ากันอย่างนี้ไม่เลิก รับรองได้เห็น” (โพสต์เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 19.55 น.)
ทราย เจริญปุระ ฉะ! ดร.อานนท์ หลังถูกว่าดัดจริตประดิษฐ์วาทกรรมฤดูใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง
และ 2. “รัฐประหารมีความจำเป็นในการเมืองไทย ในฐานะของเครื่องตัดไฟ รัฐประหารไม่ได้ทำให้ประเทศไทยก้าวหน้านัก แต่ทำให้ไม่บรรลัยหรือตายหมู่เกิดสงครามกลางเมือง
เมื่อใดก็ตามมีประชาธิปไตยเต็มใบเมื่อใด ประเทศไทยก้าวหน้าไปน้อยมาก ตีกันอย่างหนัก
ประชาธิปไตยครึ่งใบแบบสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เหมาะกับประเทศไทยมาก แต่ต้องได้คนเก่งและคนดีแบบป๋าเปรมครับ
ถ้าสถานการณ์มันกัดกร่อนมาก
รัฐประหารมีความจำเป็น
ป้องกันสงครามกลางเมือง
ขจัดภัยของชาติและราชบัลลังก์
ผมคิดว่าอีกไม่นานความจำเป็นที่จะทำรัฐประหารมีแน่นอน ไม่มีทางหลีกเลี่ยง
และรัฐประหารเที่ยวนี้ต้องกวาดล้างให้สิ้นซากไม่ให้เหลือขยะแผ่นดิน จำเป็นต้องโหด แบบ 6 ตุลาคม 19 ที่ทำให้กระบวนการฝ่ายซ้ายจัดกระเจิงไม่ผุดไม่เกิดมาเกือบ 30 ปี เที่ยวนี้ก็จำเป็นต้องทำ
ขจัดขยะแผ่นดินให้สิ้นซากเสียก่อน แล้วรีบถวายคืนพระราชอำนาจ
ประเทศไทยต้องปกครองด้วยระบอบราชาธิปไตยที่มีรัฐธรรมนูญ (Constitutional monarchy) ไม่ใช่สมบูรณาญาสิทธิราชย์ (Absolute monarchy) และไม่จำเป็นต้องเป็นประชาธิปไตย (Democracy) แต่อย่างใดเลย
ถ้าประชาชนโง่ ประชาชนชั่ว ประชาชนเลว ประชาชนเห็นแก่ตัว เป็นประชาธิปไตยเมื่อใด ฉิบหายเมื่อนั้น ประชาชนเป็นใหญ่ไม่ได้ ต้องประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวไว้ ประชาชนต้องมีธรรมะก่อนจึงเป็นประชาธิปไตยได้ ธรรมาธิปไตยต้องมาก่อน” (โพสต์เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 64 เวลาประมาณ 10.00 น.)
