คดีแฟลชม็อบ ศาลแขวงปทุมวัน พิพากษา สั่งจำคุกธนาธร-พิธา ร่วมถึง “ช่อ พรรณิการ์” และ ปิยบุตร พร้อมปรับ 11,200 บาท รอลงอาญา 2 ปี
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงานว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมด้วยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ , ปิยบุตร แสงกนกกุล , นางสาวพรรณิการ์ วานิช พร้อมพวกรวม 8 คน ซึ่งตกเป็นจำเลยในหลายข้อหา อาทิ ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งจัดการชุมนุม , ชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง และร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต เดินทางไปฟังคำพิพากษาของศาลแขวงปทุมวัน
สืบเนื่องจาก กรณีชักชวนให้ประชาชนมาร่วมชุมนุมแฟลชม็อบที่สกายวอล์กปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติยื่นศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ คดีกู้ยืมเงินจากนายธนาธร 191 ล้านบาท และจำเลยยังได้สลับกันขึ้นปราศรัยในการชุมนุม
- น้องพร แนะการใช้ชีวิตครอบครัว ซื่อสัตย์ดีที่สุด ยืนยัน ไม่ขอมีสามีใหม่
- น้องพรเคาะโลงสามี ร่ำไห้บอกลา ลั่น พรมาส่งได้แค่นี้นะ ขอโทษนะ
- ทักษิณเตรียมกลับบ้าน หลังเข้าข่ายได้ พักโทษกรณีพิเศษ จริงหรือ?
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล เดินทางมาให้กำลังใจ เปิดเผยก่อนขึ้นฟังคำพิพากษาว่า หากผลคำพิพากษาเป็นลบ ก็ได้เตรียมแผนรองรับ เตรียมหลักทรัพย์ในการยื่นขอประกันตัวจำเลย และยื่นอุทธรณ์ได้ จึงไม่น่ากังวล และไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร ก็ไม่กระทบต่อการเมือง แต่จะกระทบต่อสิทธิการแสดงออกของประชาชนหลังจากนี้
ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กลุ่มจำเลยรู้อยู่แล้วว่าหากประกาศโพสต์เชิญชวนประชาชนมาร่วมชุมนุม จะต้องเกิดการชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน ซึ่งเป็นความผิด แต่ก็ยังชักชวนคนมาร่วมชุมนุม โดยไม่แจ้งจัดการชุมนุมหรือแจ้งขอใช้เครื่องขยายเสียง ซึ่งการกระทำเป็นความผิดกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท แต่ทุกบทลงโทษเท่ากัน จึงพิพากษา จำคุกจำเลยทั้ง 8 คน คนละ 4 เดือน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี ส่วนความผิดตามข้อหาอาญาเเละความผิดพินัยไม่เเจ้งการชุมนุม เเละใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมปรับเป็นเงิน 11,200 บาท