ยังคงเป็นกระแสที่น่าจับตามองเมื่อ “สมชัย” อดีต กกต. วิเคราะห์ 1.3 ล้านเสียงของ ชัชชาติ มาจากไหน พร้อมลั่น Strategic Voting มีจริงแต่เฉพาะกลุ่ม

อย่างที่ใครหลายคนรู้กันดีว่า เมื่อวันที่ (22 พ.ค. 65) ที่ผ่านมาประชาชนคนกรุงเทพฯได้มีการลงคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งในวันนั้นได้มีผู้ว่าคนใหม่ได้รับเลือกจากการไว้ใจประชาชน มากกว่า 1,300,000 เสียง โดยผู้สมัครที่ชนะการเลืดตั้งครั้งนี้คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แต่กลับมีเรื่องดราม่าตามหลังในประเด็น “ป้ายหาเสียง” ที่มีประชาชนบางรายขโมยไป

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารจัดการเลือกตั้ง และ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ถึงวิเคราะห์ถึงคะแนนเสียงของ ชัชชาติ ว่า คะแนน 1,386,215 คะแนนของชัชชาติมาจากไหนในเมื่อ คะแนน สก. เพื่อไทยทั้งหมดมีเพียง 620,009 คะแนน แปลว่า มีคะแนนไหลมาจากที่อื่นถึง 766,206 คะแนน

คำตอบคือ ได้จากคนที่เลือก สก.พรรคอื่น แต่มาเลือกผู้ว่า เป็นชัชชาติคะแนน สก. ก้าวไกล มี 482,832 คะแนน แต่คะแนนวิโรจน์มี 253,851 คะแนน แปลว่า มีคนรักก้าวไกล รักวิโรจน์ แต่ลงให้ชัชชาติ 228,981 คนคะแนน สก. ปชป. มี 348,853 คะแนน แต่คะแนนสุชัชวีร์ มี 254,647 คะแนน แปลว่า FC ปชป. ยังไปเทใจให้ชัชชาติถึง 94,206 คะแนนคะแนน สก. ไทยสร้างไทย มี 241,945 คะแนน แต่คะแนนศิธา มีแค่ 73,720 คะแนน แปลว่า รักสุดารัตน์ แต่ลงชัชชาติ 168,225 คะแนน

และสนุกสุด เมื่อเอาคะแนนของ พปชร.+กลุ่มรักษ์กรุงเทพ ซึ่งชูอัศวินทั้งสองกลุ่ม ได้คะแนน สก.รวมกัน 464,450 คะแนน แต่คะแนนบิ๊กวิน มาแค่ 214,692 คะแนน เป็นพวกปันใจแอบไปให้ชัชชาติ ถึง 249,758 คะแนน
คะแนนปันใจเหล่านี้ รวมกันได้ 741,170 คะแนน พร่องไปจากตัวเลขที่ว่าเป็นคะแนนไหลมาจากที่อื่นแค่ 25,036 คะแนน ซึ่งหากบวกคะแนนจากส่วนอื่นย่อย ๆ ก็จะได้เป็นจำนวนใกล้เคียงคะแนน 1.38 ล้านที่ชัชชาติได้รับครับ ทั้งหมดเป็นการทดลองทางตัวเลขเล่น ๆ สนุก ๆ แต่ถ้าทำให้ลุงบางคนเครียด ขออภัยด้วย
โดยนายสมชัย ยังมีการโพสต์เพิ่มเติมอีกว่า Strategic Voting มีจริงแต่เฉพาะกลุ่ม การลงคะแนนเลือกตั้วแบบมีกลยุทธ์ เป็นเรื่องที่ผู้เลือกตั้งบิดคะแนนเสียงของตนเอง ไปเลือกผู้สมัครที่อยู่ในฝั่งเดียวกัน แต่อาจจะเป็นคนละกลุ่ม โดยเกรงว่า หากแตกคะแนนในการเลือก อาจกลายเป็นแพ้ฝั่งตรงข้าม หากพิจารณาจากผลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม.คราวนี้ จะพบปรากฏการณ์ที่น่าสนใจว่า กระแสเรียกร้องให้เลือกแบบมีกลยุทธ์ ช่วยกันเทให้ผู้สมัครคนเดียวในฝั่งเดียวกันนั้น เกิดขึ้นจริงจังในฝั่งอนุรักษ์นิยม แต่ผลที่เกิดขึ้นกลับไปเกิดขึ้นในฝั่งก้าวหน้า
ฝั่งอนุรักษ์นิยม ชูคำขวัญ ไม่เลือกเรา เขามาแน่ แต่ดูจากคะแนนโหวต แทบไม่มีแตกแถว ดร.เอ้ 250,000 สกลธี 230,000 อัศวิน 210,000 รสนา 78,000 ฝั่งก้าวหน้า กลายเป็นฝั่งที่ รักวิโรจน์ รักศิธา ลงชัชชาติ คะแนนชัชชาติ จึงเป็น 1,380,000 ในขณะที่ วิโรจน์ได้ 250,000 และ ศิธาได้ไป 73,000 แถมยังสามารถล้วงมือไปขโมยคะแนนจากฝั่งตรงข้ามมาได้อีกอย่างเป็นกอบเป็นกำการป่าวประกาศจะเลือกตั้งเชิงกลยุทธ์ที่ไม่สามารถเทคะแนนในฝั่งอนุรักษ์นิยม แต่แต่ละคนยังกอดคะแนนของตัวเอง มีผลทำให้เกิดความตื่นตระหนกในฝั่งก้าวหน้า ช่วยกันเทให้ชัชชาติอย่างพร้อมเพรียง

วันนี้ฝ่ายก้าวหน้า คงต้องขอบคุณบรรดา influencers ของเหล่าอนุรักษ์ ที่สร้างกระแสให้เกิดการลงคะแนนแบบนี้ครับ หากโพสนี้ สร้างความหงุดหงิดแก่ใคร ต้องขออภัยด้วย