ชุมนุมใหญ่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เปิดเผยว่า การชุมนุม 14 ต.ค. ถ้าลดข้อเรียกร้องจาก 3 ข้อ เหลือเพียงข้อเดียว เชื่อว่า กระแสประชาชนจะออกมาร่วมชุมนุมถล่มทลาย ท่วมท้นถนนราชดำเนิน เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกหรือยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน บรรยากาศบ้านเมืองจะคลี่คลายลง อีกอย่างในทางการเมืองเปลี่ยนวันชุมนุมได้ตามสถานการณ์ ไม่ได้หมายความว่าเปลี่ยนจุดยืนอุดมการณ์
เนื่องจากในวันที่ 13 ต.ค. คนทั้งแผ่นดินจะร่วมระลึกถึงและไว้อาลัยต่อวันสวรรคตในหลวงรัชกาลที่ 9 ภูมิรัฐศาสตร์แบบนี้ จะทำให้การเคลื่อนไหวทางการเมืองในวันที่ 14 ต.ค. เป็นไปด้วยความยากลำบาก เมื่อมีขบวนเสด็จไปพระบรมมหาราชวัง แน่นอนที่สุดประชาชนสองข้างทางจะถวายการต้อนรับ เปล่งเสียงทรงพระเจริญ
อีกอย่างการพยายามอธิบายว่า ผู้ชุมนุมจะเปิดเส้นทางเสด็จ แต่ชู 3 นิ้วนั้น ภูมิรัฐศาสตร์แบบนี้เป็นปัญหาแล้ว เพราะคนจะเต็มถนนราชดำเนินเพื่อมารับเสด็จ สิ่งที่เสนอนั้นคือ ลดข้อเรียกร้องเหลือข้อเดียวไล่ พล.อ.ประยุทธ์ แล้วเปลี่ยนวันชุมนุมใหม่ แม้ผู้จัดชุมนุมไม่ฟังหรือไม่เอาตามข้อเสนอก็ตาม แต่อีก 2 วันจะได้พิสูจน์ความจริงในความห่วงใยของตนกันแล้ว
ส่วนข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน จะพาให้ข้อที่หนึ่งและสองต้องล้มระเนระนาดกันไป พล.อ.ประยุทธ์ ก็ลอยตัวอยู่กันอย่างสบายไป โดยข้อเรียกร้องไม่ระคายผิว แต่ประชาชนกลับเสียโอกาส ประเทศไทยยังต้องเจอกับภัยคุกคาม จากภายนอกประเทศที่จ้องกดดันอีกด้วย
ส่วนความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย วันที่บ้านเมืองเป็นเผด็จการทหาร หรือ ประชาธิปไตยโดยนักการเมือง พวกไม่ได้รับผลกระทบคือ กลุ่มนายทุน นักธุรกิจใหญ่ ซึ่งไปรายล้อมได้ทั้งสองฝ่าย เพื่อกอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเอง ดังนั้น การเมืองและเศรษฐกิจจึงเลวพอกัน สถานการณ์วันนี้บ้านเมืองต้องคิดกันทั้งระบบ เพื่อเริ่มต้นกันใหม่ ให้คนรวยพวกเจ้าสัวได้รับผิดชอบต่อสังคม จะบริจาคประโยชน์ที่กอบโกยมาได้กลับคืนต่อเพื่อนมนุษย์ ช่วยลดช่องว่างเหลื่อมล้ำให้ลดน้อยลงอย่างไร
สิ่งสำคัญ ในปัจจุบัน มหาเศรษฐีไทยยังไม่แสดงออกถึงความรับผิดชอบ นายอากร ฮุนตระกูล เคยนำที่ดินกว่า 5 พันไร่ มูลค่านับแสนล้านบาทคืนกลับสู่แผ่นดิน แต่เจ้าสัวไทยส่วนใหญ่ยังเก็บดองที่ดินไว้ส่วนตัว เท่านั้นไม่พอ ยังเข้าไปล้วงลูกองค์กรอิสระ หาประโยชน์สะสมความร่ำรวยให้ตัวเอง คนพวกนี้เป็นอภิสิทธิ์ชนในบ้านเมืองได้อย่างไร วันหนึ่งต้องจำแนกออกมาเป็นราย ๆไ ปให้สาธารณะรับรู้ เพราะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ทางใดทางหนึ่ง