ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบให้ ตั้งกมธ.นิรโทษกรรม เพื่อศึกษาการออก “กฎหมายนิรโทษกรรม” พิจารณาภายใน 60 วัน
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ รัฐสภา มีการนัดประชุมสภาผู้แทนรษฎร พิจารณาญัตติด่วน ขอให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการออกกฎหมายนิรโทษกรรม หรือ ตั้งกมธ.นิรโทษกรรม โดย หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนรษฎร (ส.ส.) อภิปรายแสดงความคิดเห็นเสร็จสิ้น ซึ่งสส.ที่อภิปรายทั้งหมดเห็นด้วยกับการ ตั้งกมธ. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา จึงแจ้งว่า เมื่อที่ประชุมไม่มีใครเห็นเป็นอย่างอื่น จึงถือว่าที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้ง กมธ.วิสามัญเพื่อศึกษาการออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยมีกมธ.จำนวน 35 คน พิจารณาภายใน 60 วัน
โดยในช่วงอภิปรายนั้น นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า เรื่องนี้ตนเห็นด้วยกับการ ตั้งกมธ.วิสามัญ แต่เห็นว่าการนิรโทษกรรมครั้งนี้จะต้องระมัดระวังอย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบการเมืองครั้งใหม่ การตั้งกมธ.นิรโทษฯ ต้องไม่สร้างความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่ ถ้าเรายึดเป้าหมายเป็นตัวตั้ง เราก็ต้องระมัดระวังเหมือนกันว่า อย่าทำให้การนิรโทษกรรมที่จะเกิดขึ้น กลายเป็นการนิรโทษกรรมที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงทางการเมือง และไม่สามารถนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง ไม่สามารถนำไปสู่การสร้างความสมานฉันท์ ไม่สามารถนำไปสู่การถอดสลักระเบิดของสังคมไทยได้ในอนาคต
- อวสารไข่ดาวกรอบ ๆ สิ่งที่หวัง กับร่างที่เป็น แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
- หมอคุณไสยชื่อดัง ทำงานวงการบันเทิง อนาจารล้วงของลับ อ้างถอนของ
- เต้-มงคลกิตติ์ ยื่นเอาผิด ก้าวไกล ฮึ่ม “บิ๊กต่อ” ไม่ดำเนินการระวังโดน 157
ซึ่งหวังว่า ท่ามกลางพื้นที่รัฐสภาที่จำกัดลงเรื่อยๆ พวกเราจะร่วมมือกันถอดหัวโขนทางการเมืองออก หันหน้ามาคุยกัน แสวงหาทางออกเรื่องนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง เป็นประตูบานแรกในการเปลี่ยนการเมืองของความเกลียดชัง เปลี่ยนการเมืองที่เกิดจากความเคียดแค้น ชิงชัง ไม่เข้าใจกัน แล้วนิรโทษกรรมคู่ขัดแย้งทั้งหมด เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างการเมืองแห่งความรัก การเมืองที่สร้างความเข้าอกเข้าใจต่อกัน สร้างความปรารถนาดีร่วมกันเพื่อให้พวกเรามีระบบการเมือง มีระเบียบสังคมที่พวกเราอยู่ร่วมกันได้