พวงเพ็ชร ชี้แจง กระเช้าขึ้นภูกระดึง ใช้งบ 28 ล้าน ลั่น อยากให้มี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จังหวัดเลย แบบทั้งปี มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนตลอด
วันที่ 4 ธันวาคม 2566 นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี “กระเช้าขึ้นภูกระดึง” ว่า ตนขอชี้แจงเพื่อไม่ให้เป็นการคลาดเคลื่อน เนื่องจากเมื่อวาน (3 ธ.ค. 66) ตนได้ไปตรวจราชการที่ จ.เลย และคุยกับทางจังหวัดเรื่องงบประมานต่างๆ ที่จะขอในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (4 ธ.ค. 66) ซึ่งมี 4 ด้าน ได้แก่
1.ปัญหาความยากจน
2.ยาเสพติด
3.การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน
4.เรื่องการเกษตร

ส่วนเรื่องงบประมาณที่ทาง จ.เลย จะขอนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการสำรวจออกแบบก่อสร้าง “กระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง” ตามมติ ครม.เมื่อเดือน (ก.พ. 55) ได้มีการ “เห็นชอบ” ให้มีองค์การบริหารพื้นที่พิเศษ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเห็นชอบว่า จังหวัดเลย มีหลายสถานที่สมควรผลักดันทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนงบประมาณที่จะขอจำนวน 28 ล้านบาทนั้น “เป็นค่าสำรวจและออกแบบการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง” ซึ่งการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะต้องมีแบบแปลนอันนี้เพื่อแนบในการขอ
- ดราม่า! ขายโลหิตบริจาค สภากาชาด โร่แจง เป็นแค่ค่าบริการตามต้นทุน
- รวมวีรกรรม ‘ป้าบริโอ้’ รถเก๋งสีฟ้าในตำนาน ขับรถหัวร้อน ปาดทั่วเมืองนนท์
- สลด! หนุ่มขี่มอไซค์ชนเสาไฟ พบที่เกิดเหตุซ่อมถนน แต่ไฟสัญญาณไม่ติด
ซึ่ง ทางจังหวัดจึงต้องออกแบบเพื่อประกอบการพิจารณาของกระทรวงทรัพย์ฯ จากนั้นเมื่อเห็นชอบจาก (อีไอเอ) แล้ว ก็จะส่งไปให้ทาง อพท.ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง จึงอยากแจ้งให้ทราบว่า วันนี้เป็นเพียงการของบออกแบบสำรวจก่อสร้างเท่านั้น เหตุที่ล่าช้าและยังไม่ได้ออกแบบ เพราะเนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพิ่งอนุมัติให้เข้าพื้นที่ได้เมื่อเดือน (พ.ย. 66) ที่ผ่านมา

นางพวงเพ็ชร กล่าวอีกว่า “จ.เลยเป็นจังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะหน้าหนาวที่จะไปแค่ภูเรือหรือเชียงคาน แต่เราต้องทำการท่องเที่ยวทั้งปี ทุกเดือน ให้มีนักท่องเที่ยวตลอด จึงอยากให้มีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง เรื่องนี้โครงการอนุมัติมา 20-30 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีการดำเนินการสักที ในฐานะอดีต ส.ส.เลย อยากเห็นโครงการนี้ดำเนินไปเพื่อคนจังหวัดเลย ส่วนการต่อต้านนั้น เมื่อก่อนจากการศึกษามีทางขึ้น 2 ทาง ทางที่ 1 ยังเป็นทางเดินเท้าอยู่ ส่วนทางด้านหลังจะเป็นกระเช้า เป็นคนละทางกัน ใครอยากได้ฟิลลิ่งการเดินก็เดินขึ้นไป คนแก่คนเฒ่าอยากจะเห็นยอดภูเรือหรือเมืองเลย ก็ไปขึ้นด้านกระเช้า เชื่อว่าถ้ามียอดรายได้เข้าทุกคนคงเห็นชอบ”