จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (9 ก.ย.2564) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้เปิดแถลงข่าวการลาออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเปิดเผยว่าไม่มีความสบายใจในการทำงาน เนื่องจากบรรยากาศไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ จึงอยากกลับมาอยู่จุดเดิม คือการเป็น ส.ส. เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ไม่ใช่รองรับหรือทำอะไรเพื่อคนบางกลุ่ม
ล่าสุด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุคเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2564 แสดงความคิดเห็นถึงกรณีการลาออกของร.อ.ธรรมนัสว่า
เมื่อหลวงพ่อป้อมไม่ศักดิ์สิทธิ์ จากนี้พลังประชารัฐย่อมไม่เหมือนเดิม
คนแขวนหลวงพ่อป้อมคงรู้แล้วว่า จะเมตตามหานิยมหรือปกปักคุ้มครองเภทภัยล้วนไม่ได้ผล เพราะเมื่ออีกฝ่ายที่แขวนไพรีพินาศ มุ่งล้างผลาญรุนแรงต่อฝ่ายตรงข้าม ไม่แค่หลวงพ่อป้อมแม้แขวนพระรอดยังยากรอดได้
การตัดสินใจสะบั้นความสัมพันธ์กับธรรมนัสของนายกประยุทธ์ คือ วิธีการจัดการแบบใช้อำนาจที่เคยชินโดยลืมไปว่าขณะนี้ คุณไม่ใช่หัวหน้า คสช. แต่คุณเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องมีพรรคการเมืองสนับสนุน
ธรรมนัสคือนักการเมืองที่เป็นคีย์แมนของความสำเร็จในการเลือกตั้ง คือ เลขาธิการพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดที่เป็นหลังของรัฐบาล
ความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งต่อไปคือ ความสามัคคีและดึงกลุ่มก๊วนต่าง ๆ ภายในพรรคให้คงอยู่ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีตัวเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นสินค้าที่ขายได้ต่อประชาชน
พลังประชารัฐวันนี้ จบแล้ว เมื่อเลขาธิการใจไม่อยู่กับพรรคและพร้อมจะพาคนออกไปหาบ้านหลังใหม่ที่ดีกว่า หัวหน้าพรรคปลดเขาไม่ได้ ต้องรอประชุมใหญ่พรรคเท่านั้น เขาอยู่แต่ไม่ทำงานให้แถมยังกุมความลับมากมายที่พร้อมเปิดเผย
ตัวนายกที่จะชูในการเลือกตั้งไม่มีเหลือ ตัวหัวหน้าพรรคก็คงเหน็ดเหนื่อยที่จะเดินหน้าหากไร้พ่อบ้านมาช่วยในการจัดการ ชื่อและเชิงชั้นของผู้ซึ่งจะขึ้นมาแทนก็ยังห่างกับคนที่หมดใจ
และยิ่งทุกคนรู้ว่า หลวงพ่อองค์นี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ การแสวงหาที่อยู่ใหม่คงเดินเป็นการลับอย่างเอิกเกริกนับแต่นี้
พลังประชารัฐจากนี้ ไม่เหมือนเดิม

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธรรมนัส เปิดใจ หลังลาออกรมช.เกษตรฯ ยอมรับมีความไม่สบายใจในการทำงาน ยืนยันไม่ได้โดนบีบให้ลาออก
ย้อนเส้นทางการเมือง และหลายกรณีฉาวของ ธรรมนัส พรหมเผ่า
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่พ้น ส.ส.- รมต.