คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ ชำแหละงบปี 64 EP. 1 โดยระบุว่า “ดิฉันขอชวนให้พี่น้องคนไทยมาร่วมพิจารณางบประมาณแผ่นดิน ปี 2564 ไปกับดิฉัน และพรรคเพื่อไทย เพื่อความเข้าใจ และได้ร่วมกันตรวจสอบการตั้งงบประมาณของรัฐบาล โดยเฉพาะยามวิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้ งบประมาณแผ่นดินต้องกลับมาสร้างประโยชน์“แก้จน”ให้พี่น้องได้มากที่สุด
เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ เป็นของพี่น้องคนไทยทุกคน”
วันนี้เป็นวันแรกที่สภากำลังพิจารณางบประมาณประจําปี 2564 ที่รัฐบาลจัดทำขึ้น ดิฉันได้ดูเอกสารการจัดทำงบประมาณแล้ว ต้องบอกว่า ดิฉันรู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าการจัดงบประมาณจำนวนมหาศาลถึง 3.3 ล้านล้านบาท ในปี 64 จะไม่สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหา “สึนามิเศรษฐกิจไทย” ได้
อีกทั้งยังจะเป็นการเพิ่มหนี้ให้คนไทยอีกกว่า 623,000 เพื่อเอาไปชดเชยงบประมาณขาดดุล ซึ่งเป็นการขาดดุลที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่คนไทยจะไม่ได้รับประโยชน์เท่าที่ควรจะเป็น
ตอบโจทย์การแก้ปัญหาความยากจนไม่ได้เลย
ก่อนอื่นทุกท่านคงเห็นพ้องกันว่า
ขณะนี้ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสภาวะปกติ เศรษฐกิจเราแย่มาก่อนการเกิด COVID-19 เป็นปีมาแล้ว พอมาเจอพิษ COVID-19 เศรษฐกิจไทยจึงกำลังหดตัวอย่างรุนแรง
ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่า GDP จะติดลบ 8.1 % ขณะที่เอกชนหลายสำนักคาดว่า จะติดลบถึง 8.8 % – 9 %
การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ นับตั้งแต่รัฐประหาร ต่ำกว่าเป้ามาโดยตลอด โดยเฉพาะปีนี้แค่ 7 เดือนแรกของปี ต่ำกว่าเป้าหมายกว่า 200,000 ล้านบาทแล้ว แปลว่าธุรกิจเจ๊ง รายได้คนไทยหดหายไปมาก
การส่งออกของไทยปี 63 หดตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 29%
การบริโภคภาคเอกชนหดตัวสูงสุดถึง 12.5%
การท่องเที่ยวไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ หายไปเกือบ 100%
หนี้สินครัวเรือนสูงกว่า 80%
คาดว่าคนจะตกงานสูงถึง 8 ล้านคน ยังไม่รวมเด็กที่จบใหม่อีก 500,000 คน
ดิฉันจึงได้พูดว่า เรากำลังเจอ #สึนามิเศรษฐกิจ และจะหนักมากขึ้นในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า
แต่พลเอกประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ รวมถึง ครม. กลับทำตัวแบบ
ไม่รู้ร้อนรู้หนาว สะท้อนจากการจัดงบประมาณปี 2564 ที่ยังจัดการทำแบบเดิมๆ เป็นงบของ “รัฐราชการและพ่อค้า” ที่ไว้แบ่งเค็กกัน เหมือนที่ทำมาตั้งแต่หลังรัฐประหาร

รัฐบาลพึงสำนึกว่า ขณะนี้ประเทศชาติและประชาชนคนไทย กำลังประสบกับหายนะทางเศรษฐกิจที่จะหนักมาก และจะหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน
จึงต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ในมือ พลเอกประยุทธ์ มาเร่งแก้ไขปัญหาประชาชนให้ตรงจุด ทำให้ปัญหาปากท้องดีขึ้น ทำให้คนมีรายได้ มีงานทำ
ทุกท่านทราบไหมว่า ปี พ.ศ. 2563 – ปี พ.ศ. 2564
พลเอกประยุทธ์จะเป็นนายกที่มีเงินอยู่ในมือมากที่สุด เท่าที่ตั้งประเทศไทยมาคือ งบประมาณปี 63 จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท งบประมาณปี 64 จำนวน 3.3 ล้านล้านบาท เงินกู้ จำนวน 1.0 ล้านล้านบาท
รวมเบ็ดเสร็จคือ 7.5 ล้านล้านบาท (ยังไม่นับรวมเงินตาม พ.ร.ก.ธนาคารแห่งประเทศไทยอีก 9 แสนล้านบาท)
แต่เมื่อพิจารณางบปี 64 จะเห็นว่า เงิน 3.3 ล้านล้านบาท 80% เป็นงบประจำ (ที่มีบางส่วนไม่ประจำจริง) เหลืองบลงทุนเพื่อสร้างเศรษฐกิจเพียง 20.5% หรือประมาณ 600,000 ล้านบาทเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นคือ งบลงทุนส่วนใหญ่กลับไม่ใช่งบที่จะนำไปทำให้เกิดการสร้างรายได้ สร้างงานใหม่ ให้ประชาชน ที่กำลังเผชิญกับ #สึนามิเศรษฐกิจ แต่กลับไปสร้างถนน ซื้อของแจก ฝึกอบรม และสร้างเสริมกองทัพ
ยังทำงบประมาณแผ่นดิน #แบบไม่รู้ร้อนรู้หนาว กับความทุกข์ยากของประชาชน
ติดตามต่อพรุ่งนี้นะคะ ดิฉันจะชี้ให้ทุกท่านเห็นว่า งบประมาณใดควรตัด แต่รัฐบาลกลับไม่ตัด งบประมาณใดควรเพิ่มหรือควรมีให้ประชาชน แต่กลับไม่มี
และขอเชิญร่วมติดตามการตรวจสอบงบประมาณในสภาของ #พรรคเพื่อไทย ด้วยนะคะ