แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้ออกแถลงการณ์ ผ่านทางเฟสบุ๊กในหัวข้อ “ขอแสดงจุดยืนร่วมกับอารยะขัดขืนของประชาชนในประเทศเมียนมา” ซึ่งแถลงการณ์ดังกล่าวทำออกมาเป็นภาษาไทย และอังกฤษ โดยระบุว่า
ในฐานะเยาวชนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเช่นเดียวกับมิตรสหายในประเทศเมียนมา พวกเราทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อได้รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเมียนมา เราไม่อาจหาถ้อยคำใดๆเพื่อแสดงความเสียใจและความกังวลต่อความปลอดภัยของผู้คนในประเทศเมียนมา ในขณะที่เราเขียนแถลงการนี้ เพื่อนเยาวชนนักกิจกรรมในประเทศเมียนมากำลังต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อหลบหนีจากการคุกคามของทหาร การตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตทำให้เราไม่สามารถติดต่อกับเพื่อนของเราได้ และในตอนนี้เราไม่อาจรู้เลยว่าเราจะสามารถติดต่อพวกเขาได้อีกเมื่อใด
ไป๋ ทากุล นายแบบเมียนมา ประกาศจุดยืนร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ ติดโบว์แดง ชู 3 นิ้วต้านรัฐประหาร
แถลงการณ์นี้เขียนขึ้นโดยกลุ่มเยาวชนชาวไทยที่ยืดหยัดต่อต้านความอยุติธรรม เผด็จการและความรุนแรงทุกรูปแบบ เช่นเดียวกับพวกคุณ ยุคสมัยของเรานั้นพังทลายจากระบบเผด็จการทหารที่เสื่อมทราม พวกเราได้เรียนรู้ว่าการยึดอำนาจรัฐด้วยความรุนแรงและหลอกลวงนั้นเป็นบ่อเกิดของการทำลายประชาธิปไตย ที่นำไปสู่การเลือกปฏิบัติติและการละเมิดสิทธิมนุษยชน เมื่อกระแสธารแห่งประชาธิปไตยนั้นหยุดชะงักจากเผด็จการ ประชาชนไม่อาจหลีกหนีต่อความเสี่ยงจากความรุนแรงโดยรัฐ
อองซาน ซูจี ถูกตั้งข้อหานำเข้าอุปกรณ์สื่อสาร หลังถูกกองทัพเมียนมารัฐประหาร
เราขอประกาศยืดหยัดสนับสนุนการอารยะขัดขืนของนักเรียน นักกิจกรรม อาจารย์ บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนในประเทศเมียนมาเพื่อต่อต้านและคว่ำบาตรการรัฐประหารของกองทัพเมียนมา เราขอเรียกร้องให้กองทัพ เมียนมาปล่อยตัวพลเรือนที่ถูกควบคุมตัวอย่างไม่มีเงื่อนไข และคืนช่องทางการติดต่อสื่อสารและอินเตอร์เน็ตให้แก่ประชาชนในทันที
ทั้งนี้เราขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกประนามการกระทำอันเลวร้ายของกองกำลังทหารเมียนมา และดำเนินการทุกอย่างเพื่อปกป้องสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในประเทศเมียนมาอย่างเต็มที่ โปรดปกป้องพวกเราจากวงจรที่เสื่อมทรามของการปกครองควบคุมโดยทหารทั้งในประเทศเมียนมาและประเทศไทยที่ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนของประชาชนในประเทศถูกทำลายลง และเหนือสิ่งอื่นใด ได้โปรดให้ยืนหยัดปกป้องกลุ่มชาติพันธ์ที่ถูกคุกคามโดยกองกำลังเมียนมาอย่างเร่งด่วนที่สุด
พล.อ.มิน อ่องหล่าย ผู้นำรัฐประหารเมียนมาเปิดใจครั้งแรก ย้ำรัฐประหารเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
.การทำรัฐประหารโดยทหาร นับเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบอย่างร้ายแรงที่สุดในการเข้าแทรกแซงอำนาจรัฐ ทั้งในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ นำมาซึ่งการสร้างความชอบธรรมและการอ้างเหตุผลในการใช้การคุกคาม และละเมิดสิทธิมนุษยชนของพลเรือน
#WhatshappeninginMyanmar ไม่ใช่เพียงยุคมืดของพวกผู้คนในเมียนมา แต่เป็นของพวกเราทุกคน
ถึงมิตรสหายของเรา ขอให้เข้มแข็งและปลอดภัย
เราจะอยู่กับพวกคุณเสมอ,
ในความโกรธ.
ในหยาดน้ำตา.
ในภราดรภาพ.
III
“ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ”

