ธนาธร ซัดรัฐบาลล่าช้า บริหารจัดการวัคซีนโควิดล้มเหลว ถามเมื่อไหร่จะฉีดครบ50ล้านคน

ฉีดวัคซีนโควิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า 3 ข้อสังเกต + 3 ข้อเสนอ แผนการบริหารจัดการวัคซีนโควิด เพื่อพาประเทศคืนสู่ความเป็นปกติโดยเร็วที่สุด จนถึงตอนนี้ จากข้อมูลทั้งหมดที่มี เราสามารถสรุปได้ว่ารัฐบาลจัดหาวัคซีนได้ล่าช้ากว่าประเทศอื่น ฉีดวัคซีนช้ากว่าประเทศอื่น แต่แทนที่รัฐบาลจะออกมายอมรับความผิดพลาดของตนเอง กลับออกมาแก้ตัวด้วยข้ออ้างที่ไม่สมเหตุสมผล

โดยข้ออ้างดังกล่าวมี 3 ประเด็นใหญ่ด้วยกัน ซึ่งผมขอให้ความคิดเห็นไว้สักเล็กน้อย ก่อนที่จะเสนอแผนการบริหารจัดการวัคซีนที่ผมเชื่อว่าจะนำพาประเทศไทยกลับคืนสู่ความเป็นปกติได้โดยเร็ว

1. “ประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดที่รุนแรง ไม่มีผู้เสียชีวิตมากมายเหมือนประเทศอื่น เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ จึงไม่จำเป็นต้องรีบฉีด เราสามารถรอได้”

ประเทศไทยไม่มีการแพร่ระบาดรุนแรงและไม่มีผู้เสียชีวิตเหมือนหลายประเทศจริง แต่ในระหว่างที่สังคมยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ประชาชนต้องใช้ชีวิตแบบกึ่งปิดกึ่งเปิด ยกการ์ดป้องกันตัวเอง ใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวและความลำบากยากแค้นในการทำมาหากิน ในภาวะเช่นนี้ หลายครอบครัวรายได้น้อยลง หลายคนตกงาน บัณฑิตจบใหม่หางานยาก ผู้ประกอบการไม่กล้าจ้างงานใหม่ ไม่กล้าลงทุน หลายรายปิดกิจการไปแล้ว หนี้ครัวเรือนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือครัวเรือนที่มีรายได้น้อย พวกเขาต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนเอาตัวรอดด้วยตนเอง

แผนการฉีดวัคซีนของรัฐบาลจนถึงปลายปีที่แล้วยังมีเป้าหมายที่จะฉีดให้ครบร้อยละ 50 ของจำนวนประชากรในสิ้นปี 2566 เราใช้ชีวิตภายใต้สถานการณ์โควิดมาแล้วหนึ่งปี ลองนึกดูกันว่าหากต้องใช้ชีวิตเช่นนี้อีกสามปี คนจนจะเป็นอย่างไร? รัฐบาลเพิ่งจะมาเปลี่ยนแผนใหม่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ก็ตอกย้ำแล้วว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับวัคซีนน้อยเกินไปและช้าเกินไป

ประเทศไทยรอวัคซีนนานขนาดนั้นไม่ได้ คนที่กล่าวว่าเราสามารถรอได้ ไม่จำเป็นต้องรีบฉีด คือคนที่มีการงานมั่นคง ไม่มีความเข้าใจความเดือดร้อนของคนจนและผู้ประกอบการรายย่อย

การแพร่ระบาดรอบสองเมื่อปลายปีที่แล้ว ทำให้เราเห็นว่าสมมุติฐานว่าเราสามารถจัดการการแพร่ระบาดได้ในอดีต และจะทำได้ตลอดไป เป็นสมมติฐานที่ตั้งอยู่บนความประมาท การแพร่ระบาดรอบใหม่อาจเกิดขึ้นได้อีกเมื่อใดก็ได้ และทุกครั้งที่เกิด การใช้มาตรการกึ่งเปิดกึ่งปิด คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือคนจนและผู้ประกอบการรายย่อยอีกเช่นเดิม

การจัดการการแพร่ระบาดและการจัดหาวัคซีนเป็นคนละภารกิจกัน ผมขอยกตัวอย่างประเทศนิวซีแลนด์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่มีการจัดการโควิดได้ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก นิวซีแลนด์จัดการการแพร่ระบาดไปพร้อมๆ กับการจัดหาวัคซีน จนถึงวันนี้รัฐบาลนิวซีแลนด์ จัดหาวัคซีนครอบคลุมถึงสามเท่าของจำนวนประชากรจากผู้ผลิต 4 เจ้า

2. “จัดจองจัดซื้อช้ามาจากการต้องการเลือกวัคซีนที่ดีที่สุด ไม่ต้องการให้คนไทยเป็นหนูทดลอง ให้ต่างประเทศเขาลองก่อน”

วัคซีนจากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ ล้วนแต่ผ่านการทดลอง clinical trial ในระยะที่หนึ่ง ซึ่งเป็นระยะที่ทดสอบความปลอดภัยในมนุษย์ตั้งแต่ปีที่แล้ว เช่น วัคซีนจาก Pfizer ผ่านการทดสอบระยะที่หนึ่งในเดือนเมษายน และวัคซีนจาก Moderna ผ่านการทดสอบระยะที่หนึ่งเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

หลายประเทศที่รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาคุณภาพวัคซีน เลือกใช้วิธีสั่งจากหลายเจ้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงว่าวัคซีนที่จัดหาอาจใช้ไม่ได้ผล ไม่ใช่ใช้วิธีซื้อช้า นอกจากนี้ ก่อนการนำวัคซีนใดมาใช้ ยังต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบและรับรองของ อย. ในประเทศอีกด้วย

ประเด็นนี้ถูกหยิบยกมาพร้อมกับเรื่องราคาและภาษีประชาชน ซึ่งขอให้ดูประเด็นต่อไป

3. “ตอนนี้ตลาดวัคซีนเป็นของผู้ขาย ถ้ารอถึงปลายปีตลาดวัคซีนจะเป็นของผู้ซื้อ เราจะได้ราคาที่ถูกลง”

จากข้อมูลของรัฐบาลเอง ประเทศไทยเสียรายได้เฉพาะภาคการท่องเที่ยวจากสถานการณ์โควิดถึงเดือนละ 2.5 แสนล้านบาท วัคซีนที่ซื้อจากแอสตราเซเนกา ราคาเข็มละ 150 บาท(5 ดอลลาร์) เราใช้เงินเพื่อจัดซื้อให้ครอบคลุมร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรเป็นเงิน 4 พันล้านบาท ถ้าจะจัดซื้อให้ครบทุกคน ต้องใช้เงิน 2 หมื่นล้านบาท ราคาก็ไม่ได้มากไปกว่าเรือดำน้ำสองลำที่ซื้อจากจีน

ถ้าเร่งจัดหาตั้งแต่ปีที่แล้ว ต่อให้ราคาแพงกว่านี้ 3 เท่า หรือเป็นเงิน 6 หมื่นล้านบาท ถ้าเทียบกับความสูญเสียแล้ว คิดอย่างไรก็คุ้ม ดังนั้นเรื่องรอตลาดวัคซีนให้เป็นของผู้ซื้อ เมื่อเทียบกับความสูญเสียทางเศรษฐกิจแล้ว จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง

ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะออกมายอมรับความจริงว่าประมาทเกินไป คิดว่าจะสามารถควบคุมไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดได้ตลอดไป จึงฝากความหวังไว้ทีวัคซีนแอสตราเซเนกาเจ้าเดียว ไม่เร่งเจรจากับผู้ผลิตรายอื่น

คุณอนุทินพูดถึงกรอบเวลาการฉีดวัคซีนใหม่ที่เมื่อวานนี้ และทำให้เราทราบว่าตั้งแต่เดือนมิถุนายนของปีนี้เป็นต้นไป รัฐบาลจะฉีดวัคซีนเดือนละ 5 ล้านเข็มให้กับคนไทย โดยมีเป้าหมายจะฉีดให้ได้ครอบคลุมประชากรจำนวน 50 ล้านคนซึ่งต้องใช้วัคซีน 100 ล้านเข็ม

จากเป้าหมายนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้เวลาถึง 20 เดือน หรือจนถึงช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 เพื่อจะฉีดให้ได้ครบตามเป้าหมาย ซึ่งช้าเกินไป ประชาชนจะรอได้อย่างไร? บุคลากรทางการแพทย์จะทำงานหามรุ่งหามค่ำอีกนานขนาดนั้นได้อย่างไร?

ผมมีข้อเสนอถึงรัฐบาล 3 ประการ เพื่อจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้รวดเร็วกว่านี้ นำประเทศกลับสู่ความเป็นปกติได้เร็วกว่านี้

1. เป้าหมายการฉีดวัคซีนเดือนละ 5 ล้านเข็ม น้อยเกินไปและช้าเกินไป ผมเข้าใจว่าเกิดจากการส่งมอบวัคซีนช้า รัฐบาลจึงต้องเร่งเจรจาหาผู้ผลิตที่สามารถส่งมอบได้เร็วกว่านี้โดยคำนึงถึงเรื่องราคาเป็นประเด็นรอง นายกรัฐมนตรีต้องนั่งสั่งการกำกับการเจรจาจัดหา และติดตามความคืบหน้าด้วยตนเองทุกวันเพื่อสนับสนุนการทำงานของข้าราชการและบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานอย่างหนักอยู่ แต่ติดขัดขั้นตอนทางราชการที่ล่าช้า

2. รัฐบาลต้องเริ่มออกแบบกระบวนการฉีดวัคซีนอย่างลงรายละเอียด หากเราต้องการฉีดให้ได้ 5 ล้านเข็มต่อเดือน หมายความว่าเราต้องฉีดให้ได้ 2,200 เข็มต่อจังหวัดต่อวัน ผมเชื่อว่าถ้าเราจัดหาวัคซีนได้มากกว่านี้ต่อเดือนและออกแบบบริหารการฉีดได้ดี เราสามารถฉีดได้มากกว่า 2,200 เข็มต่อวันต่อจังหวัด

รัฐบาลต้องเริ่มกำหนดศูนย์ฉีดวัคซีนในแต่ละจังหวัดให้ชัดเจนว่าแต่ละจังหวัดมีกี่ศูนย์ที่ใดบ้าง หลังจากนั้นจึงออกแบบกระบวนการในแต่ละศูนย์ ว่ามีกี่สถานีฉีด แต่ละสถานีต้องใช้บุคคลากรเท่าใด กี่ผลัด เพื่อครอบคลุมทั้ง 7 วัน บุคลากรจะมาจากไหนและต้องเพิ่มทักษะอย่างไรบ้าง

รัฐบาลต้องจัดเตรียมยานพาหนะที่จะใช้ในการขนส่งวัคซีนให้เพียงพอตลอดช่วงเวลาการฉีดวัคซีน หากจำเป็นต้องสร้าง/ต่อเติมยานพาหนะพิเศษเพิ่มเติมเพื่อจัดเก็บและขนส่ง ต้องเริ่มทำตั้งแต่วันนี้

รัฐบาลต้องออกแบบและสร้างระบบฐานข้อมูลในการเก็บข้อมูลการฉีดวัคซีนของประชาชนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สอบทานกลับได้ว่าใครฉีดวัคซีนตัวใด วันที่เท่าไหร่ มาจากชุดการผลิตไหน

3. รัฐบาลต้องเปลี่ยนท่าทีในการพูดเรื่องวัคซีนกับประชาชน คนจำนวนมากไม่อยากฉีดวัคซีนด้วยเหตุผลที่ต่างกัน รัฐบาลต้องเลิกทำให้ประชาชนกลัววัคซีน บอกข้อมูลอย่างตรงไปตรงมาเรื่องการแพ้วัคซีน ซึ่งอ้างอิงได้จากผลการทดสอบยาในระยะสาม เปิดเผยข้อมูลต่างๆอย่างรอบด้านเพื่อให้ประชาชนไว้วางใจ หากประชาชนไม่ยอมรับการฉีดวัคซีน ต่อให้จัดหาวัคซีนมาได้ก็ไม่มีประโยชน์

ข้อเสนอของผมทั้งหมด เป็นไปด้วยความปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชนคนไทย บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำเพื่อรับมือโควิด ประชาชนทั่วประเทศเผชิญความยากลำบากอย่างสาหัสจากพิษเศรษฐกิจ เราไม่อาจยกการ์ดแบบนี้ต่อไปได้อีกเป็นปีๆ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องพาคนไทยออกจากอุโมงค์อันมืดมิดของยุคโควิดโดยเร็ว และอาวุธที่เราต้องการเร็วที่สุด ทั่วถึงที่สุด ก็คือวัคซีน

หวังว่าข้อเสนอของผมจะได้รับการรับฟังจากรัฐบาล เพื่อที่พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะได้กลับคืนสู่ชีวิตอันเป็นปกติโดยเร็ว

ข่าวล่าสุด

ดูทั้งหมด

เผยภาพมุมสูง-มวลน้ำมาเร็วไปเร็ว น้ำท่วมแม่สาย – ตลาดสายลมจอย เชียงราย

น้ำท่วมแม่สาย ตลาดสายลมจอย จ.เชียงราย ชาวบ้าน-ร้านค้า ขนของหนีน้ำวุ่น ล่าสุดน้ำลดแล้ว กลับสู่ภาวะปกติ แต่ยังวางใจไม่ได้

“ดีเจเพชรจ้า” เดือด! ตอบกลับชาวเน็ตแซะ “น้องเนปจูน” คบเพราะรวย

“ดีเจเพชรจ้า” เดือด! ออกมาไลฟ์สดตอบกลับชาวเน็ตแบบเจ็บจี๊ด หลังแซะ “น้องเนปจูน” คบเพชรจ้า เพราะรวย – ลั่นจีบผู้หญิงไม่จำเป็นต้องมีเงิน! กลายเป็นอีกหนึ่ […]

ปุ๊กลุก ฝนทิพย์ ตอบข่าวลือ “รักมาราธอนไร้งานแต่ง – พระเอกมีโลกสองใบ”

“ปุ๊กลุก ฝนทิพย์” เคลียร์ชัด! ชี้แจงผ่านโซเชียล หลังถูกโยงข่าวลือรักมาราธอนไร้งานแต่ง – พระเอกมีโลกสองใบ กลายเป็นกระแสที่หลายคนจับตามอง สำหรับข่ […]

เบียร์ เดอะวอยซ์ ไลฟ์สดอาบน้ำ ชาวเน็ตสงสัย มีปัญหาสุขภาพจิต?

เกิดอะไรขึ้น ?? “เบียร์ เดอะวอยซ์” ไลฟ์สดอาบน้ำกลางดึก หลังเจอดราม่าฟ้องร้อง และกระแสด้านลบโจมตี ด้านชาวเน็ตเป็นห่วงสุขภาพจิต ยังคงเป็นประ […]

เปิดใจครั้งแรก !! ณิชา ณัฏฐณิชา หลังดราม่า รักร้าว โตโน่ ภาคิน

“ณิชา ณัฏฐณิชา” เปิดใจครั้งแรก หลังดราม่ารักร้าว “โตโน่ ภาคิน” ด้านแฟนคลับตั้งคำถาม “จะกลับไปคบโตโน่หรือไม่?” กลายเป็นกระแสร้อ […]

รวบคู่รักต่างชาติ แก้ผ้าเดินโทง ๆ บอกแสดงความรัก โดนจับปรับ 5,000

คู่รักชาวโปแลนด์ แก้ผ้าเดินโทง ๆ โอบกอดกันบนเกาะพะงัน ไม่หวั่นสายตาชาวโลก ประชาชนทนไม่ไหวแจ้งตำรวจมารวบตัว – ฝ่ายชายคลุ้มคลั่ง
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า