กระทรวงสาธารณสุข เตือนอย่าหลงเชื่อข้อมูลแชร์ในโซเชียลฉีดวัคซีนโควิด 19 ซิโนแวคแล้วภูมิไม่ขึ้น ชี้ชุดตรวจเร็ว หรือ Rapid Test ใช้ตรวจภูมิคุ้มกันกรณีฉีดวัคซีนไม่ได้ ต้องตรวจด้วยวิธีเฉพาะ
เมื่อวันนี้ 18 เมษายน 2564 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวกรณีโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลว่าฉีดวัคซีนโควิด 19 ของซิโนแวค ครบ 2 เข็มแล้วตรวจด้วยชุดตรวจเร็ว (Rapid Test) ภูมิคุ้มกันไม่ขึ้น
ซึ่งแท้จริงแล้วการตรวจด้วยชุดตรวจเร็วบางชนิดเป็นการตรวจปลอกหุ้มสารพันธุกรรม จึงจะไม่สามารถตรวจพบได้ การตรวจภูมิคุ้มกันต้องใช้วิธีตรวจที่เฉพาะต่อ spike protein วิธีหนึ่งที่เป็นมาตรฐาน คือ PRNT (Plaque Reduction Neutralization Test) โดยการตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโคโรนาไวรัส
และต้องตรวจในห้องปฏิบัติการที่มีระบบความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 3 โดยนำน้ำเหลืองของผู้ที่ได้รับวัคซีนมาใส่ในจานเพาะเชื้อที่มีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ต่าง ๆ และเจือจางเลือดลงครั้งละเท่าตัว จนถึงจุดที่สามารถทำลายเชื้อไวรัสลงครึ่งหนึ่ง จะเป็นจุดที่บ่งบอกระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้น

นายแพทย์ศุภกิจกล่าวต่อว่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจภูมิคุ้มกันต่อ spike protein ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ประมาณ 15 วันหลังฉีดครบ 2 เข็ม ก็พบว่ามีภูมิคุ้มกันขึ้น และผลตรวจของตนเองหลังฉีดซิโนแวค 2 เข็ม 14 วัน พบว่า มีระดับภูมิคุ้มกันสามารถทำลายไวรัสสายพันธุ์ที่พบแรกๆ ในประเทศตั้งแต่เริ่มมีการระบาด
เป็นข้อยืนยันว่าวัคซีนซิโนแวคได้ผลในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยระดับภูมิคุ้มกันโรคในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในคนไทย
ข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข