นายกฯอุ๊งอิ๊ง สรุปประชุม แก้ “น้ำท่วมภาคเหนือ” เผย! ข่าวดีลด ‘ค่าน้ำ-ค่าไฟ’ ให้ผู้ประสบภัยอุทกภัย ก.ย.-ต.ค.นี้ + ถกงบประมาณเยียวยาน้ำท่วม
วันนี้ (16 ก.ย. 67) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเป็นประธานการประชุมจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม และจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
นางสาวแพทองธาร เปิดเผยว่าการจัดตั้ง ศปภ. เพื่อแก้ปัญหาอย่างทันท่วงที หากมีปัญหาหรือต้องเยียวยาจะสามารถตัดสินใจและประสานงานอย่างรวดเร็ว ขณะที่สถานการณ์น้ำในภาคอีสานมีปริมาณลดลง กรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุม เริ่มบอกทิศทางของน้ำได้ ซึ่งจังหวัดใดที่จะมีน้ำพัดเข้าไปก็มีการเตรียมพร้อม
“ตนเองกำชับในที่ประชุม ให้ประชาชนเคลื่อนย้ายของโดยเร็ว ซึ่งมีการแจ้งล่วงหน้าหลายวัน ส่วนจังหวัดที่น้ำท่วมไปแล้ว 3 วันนี้น่าจะจบลง แผนการฟื้นฟูต่าง ๆ พยายามจัดทำให้กลับสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด สำหรับการเยียวยาที่ไม่ได้เน้นเรื่องวัน ให้ดูเรื่องความเสียหายเป็นหลักนั้น ต้องดูในรายละเอียด แต่ความรวดเร็วต้องมาก่อน ใช้การเยียวยาในกรอบเดิม”
“โดยได้พูดคุยกับ กระทรวงมหาดไทย ว่าในเดือน ก.ย. ผู้ประสบอุทกภัย จะไม่ต้องเสียค่าน้ำ-ค่าไฟ และจะลดค่าน้ำ-ค่าไฟรวม 30% ในเดือน ต.ค. ด้วย พร้อมกับระดมกำลังพลกองทัพ และนักเรียนอาชีวะให้มาช่วยซ่อมแซมบ้านเรือนให้กับประชาชน”
ทั้งนี้ สถานการณ์น้ำท่วมหนองคาย ทยอยลดลงแล้ว ส่วนน้ำจากจีนก็ปล่อยในอัตราปกติ น้ำจากแม่น้ำโขงได้แจ้งเตือนจังหวัดในกลุ่มอีสานตอนล่างให้เตรียมความพร้อมและแจ้งปริมาณน้ำไปยังจังหวัดต่าง ๆ แล้ว โดยยืนยันว่าแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีความสามารถในการรองรับน้ำได้มากเพียงพอ
นางสาวแพทองธาร กล่าวถึง งบประมาณเยียวยาน้ำท่วม จะใช้งบประมาณตามที่มีมติ ครม.เดิมก่อน สอดคล้องกับที่ตนเองได้เสนอในที่ประชุมให้ปัญหาหาตรงจุด แต่ต้องดูรายละเอียดว่าจะปรับอะไรได้บ้าง โดยผู้ประสบอุทกภัยจะได้รับการเยียวยาสูงสุด 2.3 แสนบาท
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อว่าเราทำตามกรอบเดิมทุกอย่าง แต่หัวใจคือความรวดเร็ว ส่วนจะเยียวยามากขึ้นกว่านี้หรือไม่ จะมีการพิจารณาตามหลัง โดยคณะกรรมการที่มีการตั้งขึ้นในวันนี้จะมีการประชุมนัดแรกในวันพุธที่จะถึงนี้ เน้นไปที่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการเยียวยา พร้อมทำให้ทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ โดยจะมีการนำเสนอความคืบหน้าต่อนายกรัฐมนตรีเป็นระยะ ขณะที่ช่องทางการเยียวยา เดิมมีอยู่แล้ว แต่จะพิจารณาว่ามีช่องทางใดที่สามารถเยียวยาได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นโจทย์ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบให้
ส่วน การลงพื้นที่ไปยังพื้นที่ประสบอุทกภัย
นางสาวแพทองธาร ระบุว่าต้องมอบหมายให้ ศปภ.เป็นผู้พิจารณา เพราะเราต้องดูความพร้อม ซึ่งถ้าสามารถไปได้ตนเองก็จะไป อย่างจังหวัดหนองคายส่งนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ไปก่อน หลายจังหวัดก็ได้ส่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีไปดูแลพี่น้องประชาชนแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นางสาวแพทองธาร จะไม่รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยจะมอบให้กับมูลนิธิต่าง ๆ เช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ตามระบบเงินเดือนต้องรับออกมาก่อน แต่รับออกมาแล้วจะทำอะไรต้องวางแผนอีกที
