ศิริกัญญา สงสัย ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ เป็นยาผีบอก แก้ปัญหาวิกฤตไทย? ขณะที่ เศรษฐา ย้ำ! ไทยอยู่ขั้นวิกฤต
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจนิด้าโพลว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับการกู้เงินมาแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า เท่าที่ดูคร่าว ๆ ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น เพราะคนที่เห็นด้วยก็มี ถือเป็นการสะท้อนความคิดเห็น และเรื่องก็อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว อีกทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจก็สะท้อนออกมาว่า GDP ไตรมาส 3 ขยายตัวเพียง 1.5% คู่แข่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียต่ำสุด 3.3% บางประเทศมากกว่าเรา 2-3 เท่า เป็นเรื่องของการตีความว่าวิกฤติจำเป็นหรือไม่ ซึ่งรัฐบาลนี้ย้ำว่าวิกฤติและจำเป็น
ส่วนที่นายกฯ ระบุว่าเห็นตัวเลข GDP 1.5% แล้วตกใจ จะมีเทคนิคทางเศรษฐกิจอย่างไรระหว่างรอโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต เพื่อมากระตุ้นเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดิจิทัล วอลเล็ต เป็นนโยบายใหญ่นโยบายหนึ่ง เช่นเดียวกับนโยบายการท่องเที่ยว รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์ และการแก้ไขปัญหาหนี้สินทั้งระบบ ซึ่งบางอย่างทำได้ทันที และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล หรือ ไหม ศิริกัญญา รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ กรรมกรข่าวคุยนอกจอ ได้ตอบคำถามที่ถามว่า รัฐบาลที่ทำอยู่ ยังไม่ได้พยายามที่จะแก้วิกฤต แต่จะรอดิจิทัลอย่างเดียวเลย ว่า ดิจิทัลวอลเล็ต นี่มันเป็นยาผีบอกหรือเปล่า ถึงได้แก้ปัญหาได้ทุกอย่างเลย โดยที่ไม่ต้องไปแก้อย่างอื่น แล้วเดี๋ยว GDP โตขึ้นแล้วทุกอย่างจะดีเอง แบบนี้เป็นต้น
ต้องแน่ใจจริงๆ ว่ายาที่เขาจะเอามาใช้รักษาอาการป่วยของเศรษฐกิจไทยว่ามันถูกต้องแล้วจริงๆ ถ้าคุณจะกู้ เศรษฐกิจแย่ จะใช้งบประมาณของประเทศในการที่จะไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามสบายไม่มีให้ห้าม
แต่ว่าพอคุณจะกู้ มันจะยากนิดหนึ่งเพราะเขาออกแบบมาให้เป็น แหล่งเงินสุดท้าย ที่คุณจะใช้ได้ หากสงครามในนอิสราเอลมันหนักกว่าเดิม เป็นสงครามที่ใหญ่ขึ้นมันอาจจะเป็นวิกฤตจริงๆ ถ้าราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอีกรอบ เศรษฐกิจตกต่ำ มันเป็นวิกฤติจริง แต่ถ้าเราเอามาลง ดิจิทัลวอลเล็ต เราก็อาจจะไม่เหลือกระสุนเอาไว้ยิง ในเวลาที่จำเป็น
รัฐบาลไม่พยายามที่จะแก้วิกฤต?
รัฐบาล อาจจะมีความพยายามที่จะทำอยู่ แต่ก็พยายามที่จะเชื่อมโยงที่จะดึง ดิจิทัลวอลเล็ต มาแก้ปัญหา ทั้งส่งออกที่มันตกต่ำ ทั้งการลงทุนที่มันโตต่ำช้ากว่าเพื่อนบ้าน มันเลยกลายเป็นเรื่องตลก
นอกจากนี้ ศิริกัญญา ยังกล่าวต่ออีกว่า ได้มีการทำตัวเลขเกี่ยวกับงบประมาณ ยิ่งชัดใหญ่ว่าจะต้องคาดการณ์ล่วงหน้าปีกว่าๆ เริ่มทำงบเพื่อใช้ทำเดือน ต.ค. 67 จะต้องเริ่มทำตั้งแต่เดือน ธ.ค. 66 เป็นต้น ซึ่งถ้าคาดการณ์ผิด ก็จะส่งผลถึงการคาดการณ์ประมาณรายได้ แล้วก็จัดเก็บรายได้ไม่เข้าเป้า