ชาวนาบึงกาฬ ขุดพบไหโบราณและวัตถุโบราณจำนวนมากกลางทุ่ง คาดอายุเก่าแก่เท่าเครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง จ.อุดรธานี ขณะที่ ทางอำเภอแจ้งกรมศิลปากรเร่งตรวจสอบแล้ว
ไหดินเผา เครื่องประดับ และวัตถุโบราณจำนวนมากเหล่านี้ ถูกชาวนาขุดพบกระจัดกระจายอยู่ใต้ดินในทุ่งนา บ้านห้วยสามยอดเทวกุล หมู่ 6 ต.โป่งเปือย อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ โดยจุดแรกบริเวณมุมคันนา พบไหดินเผาสูงประมาณ 70 ซม. กว้าง 67 ซม. และไหเล็กๆ สูงประมาณ 30 ซม. กว้าง 32 ซม. อีกจำนวน 6 ใบ โผล่ออกมาให้เห็นสภาพอยู่ข้างคันนา โดยในไหใบใหญ่นี้ พบมีด1 เล่ม วางอยู่ในไห น้ำหนักประมาณ 110 กรัม สภาพผุกร่อน สนิมจับเกรอะกรัง ห่างออกไปอีก 50 ม. พบไหใบใหญ่ อยู่กลางคันนาสูงประมาณ 65 ซม. กว้าง 58 ซม. ด้านในพบกำไลหยกขาวใส 6 เหลี่ยม 1วง สภาพสมบูรณ์ กำไลสัมฤทธิ์สีเขียวลวดลายสวยงาม 2 วง สภาพแตกบิ่น เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซม. เท่ากัน และมีไหใบรองลงมาอีก 3ใบ ฝังอยู่ในคันนาติดกัน นอกจากนี้ ยังพบลูกปัดเล็กๆ สีน้ำตาล และสีต่างๆ อีกจำนวนมาก มีอีกมีด 2 เล่ม และยังมีวัตถุโปบราณอีกชิ้น คาดว่าน่าจะเป็นปิ่นปักผม 1 อัน ในจุดนี้ยังพบชิ้นกระดูกจำนวนหนึ่ง ส่วนสภาพไหด้านนอกมีลวดลายคล้ายหนังไก่ บางลายก็เป็นเส้นนูนทางยาวสีน้ำตาลอ่อน ส่วนด้านในไหเป็นสีดำ ความหนาประมาณ1 เซนติเมตร
สำหรับจุดที่พบวัตถุโบราณครั้งนี้ อยู่ห่างจากหมู่บ้านห้วยสามยอดเทวกุล ประมาณ 2.6 กม. ไปทางทิศใต้ เส้นทางบ้านห้วยสามยอด-บ้านหนองตะไก้ แล้วเดินแยกไปตามถนนลงทุ่งนาอีกประมาณ 200 เมตรก็จะถึงจุดที่พบวัตถุโบราณ โดยมี นายสุบรรณ กมลภา อายุ 70 ปี เป็นเจ้าของที่
นายถาวร สังขะมาน ปลัดอาวุโส อ.เมืองบึงกาฬ กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายได้ร่วมกันเข้ามาดูวัตถุโบราณ ซึ่งจากที่ดูแล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นรุ่นไหน สมัยไหน ซึ่งเจ้าของที่นาก็ได้นำส่วนหนึ่งมาเก็บไว้ที่บ้าน อีกที่เหลือก็ยังอยู่ที่ทุ่งนาซึ่งทางอำเภอเมืองได้ให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ประสานไปยังหน่วยงานศิลปากรที่ 8 จ.ขอนแก่น ให้มาตรวจสอบแล้ว คาดว่าต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งถึงจะได้ความชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้สั่งการให้กำนันผู้ใหญ่บ้าน สร้างความเข้าใจกับประชาชน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงเพราะอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพใช้โอกาสนี้มาหลอกลวงประชาชนได้ และจะให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปติดป้ายหวงห้าม ไม่ให้ประชาชนเข้าไปขุดค้น หรือนำวัตถุโบราณออกมา ซึ่งถือว่าผิดกฏหมาย
ทางด้าน นายขัตติยา ชัยมณี ผอ.กลุ่มส่งเสริมศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า คาดว่าของไหดินและวัตถุโบราณที่ขุดขึ้นมาได้ในครั้งนี้ มีอายุจะเท่ากับไหดินบ้านเชียง ที่ จ.อุดรธานี และในอนาคตอาจจะได้พัฒนาพื้นที่บริเวณนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ต่อไป
