ข่าวดีสำหรับผู้ประกันตน เคาะแล้ว! เงินเยียวยา ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ม.40 รอบที่ 2 ในพื้นที่ 13 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เริ่มโอนเงิน 20 ก.ย. 64 นี้
หลังจากมาตรการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยการแจกเงินเยีวยาสำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 39 และ 40 ในรอบที่ 1 ทยอยโอนแล้วมากกว่าครึ่ง ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิ์ในรอบแรก สามารถยืนทบทวนสิทธิ์ได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 อย่าลืมผูกบัญชีกับเลขบัตรประชาชนเท่านั้น เพื่อรอรับการโอนเงินเข้าบัญชีจากทางสำนักงานประกันสังคม
- ผู้ประกันตนม.33 ม.39 และม.40 ที่ยังไม่ได้เงิน เงินเยียวยา อย่าลืมทบทวนสิทธิ์ ตรวจสอบไทม์ไลน์โอนเงินรอบสองที่นี่
สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิเยียวยา 2 เดือน แต่ยังไม่ได้รับการโอนเงินเยียวยา ทางสำนักงานประกันสังคมจะทำการโอนเงินให้ท่าน แบ่งเป็น 2 เดือนเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มโอนให้งวดแรกในเดือนกันยายนนี้ (วันที่ 20-30 กันยายน) ซึ่งหากประมวลผลเสร็จไว จะสามารถโอนได้ไวยิ่งขึ้น ให้ต้องหมั่นเช็คได้ที่ www.sso.go.th หากไม่ได้สิทธิ์ สามารถยื่นทบทวนได้ถึง 31 ตุลาคมนี้

เงินเยียวยาในรอบที่ 2
ทั้งนี้ผู้ประกันตนหลายคนยังคงเฝ้ารอเงินเยียวยาในรอบที่ 2 ล่าสุด ทางด้านของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานเปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติจ่ายเยียวยาให้กับนายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 เพิ่มเติมรายละ 1 เดือนรวมเป็น 2 เดือนเฉพาะในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้มที่ประกาศล็อกดาวน์ 2 เดือน
13 จังหวัดพื้นที่สีแดง – กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา ชลบุรี ฉะเชิงเทราและพระนครศรีอยุธยา
โดยคาดว่าจะได้รับเงินจากทางกระทรวงการคลังในวันที่ 15-16 ก.ย.64 และจะเริ่มทำการโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีพร้อมเพย์ ที่ผูกกับเลขบัตรประชาชน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.เป็นต้นไปโดยจะทยอยโอนในทุกมาตราให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.นี้
อย่างไรก็ตามสำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการโอนเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตนทุกมาตราไปแล้วกว่า 98% ในส่วนของผู้ที่ได้รับสิทธิ แต่ยังไม้ได้รัยเงินโอนเข้าบัญชี ซึ่งกลุ่มนี้ยังไม่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน หากดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ทางสำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินรอบเก็บตกในทุกวันพฤหัสบดี และวันศุกร์ของทุกสัปดาห์
สามารถติดตามข่าวสาร และ เรื่องดีๆเกี่ยวกับสุขภาพได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV
ข่าวที่น่าสนใจ