ชัดเจน! กรมประชาสัมพันธ์ เผยชัด ไม่มีระเบียบจาก ศธ. ให้อำนาจครู ลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม รวมถึงใช้ไม้เรียวหรือประจานให้อับอาย
หนึ่งประเด็นในโลกออนไลน์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กลายเป็นคลิปวิดีโอที่แชร์ต่อๆกัน และแสดงความคิดเห็นอย่างมาก กับกรณีของ ผู้ใช้ทวิตเตอร์เผยแพร่ภาพและวิดีโอ พร้อมติด #ยกเลิกเรื่องทรงผม #โรงเรียนย่านหลังเดอะมอลล์โคราช ของนักเรียนถูกครูตัดผม โดยครูได้ใช้กรรไกรตัดผมนักเรียนที่ยาวผิดระเบียบโรงเรียนจนเกิดเป็นรอยแหว่งที่ไม่สามารถแก้ทรงได้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ทางด้านเพจเฟซบุ๊ก กรมประชาสัมพันธ์ ไม่มีระเบียบกระทรวงศึกษาธิการฉบับใดที่ให้อำนาจครูลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม ความในวรรคท้ายตามข้อ 7 ของ #ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการไว้ทรงผมของนักเรียน พ.ศ.2563 กำหนดให้แต่ละสถานศึกษาสามารถวางระเบียบการไว้ทรงผมของนักเรียนเป็นการเฉพาะเจาะจงได้ โดยมี “หลัก” ที่ต้องยึดถือในการวางระเบียบ คือ “ความเหมาะสมในการพัฒนาบุคลิกภาพที่ดีของนักเรียน และการมีส่วนร่วมของนักเรียน สถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น”
ตราบใดที่การไว้ทรงผมของนักเรียนไม่เข้าองค์ประกอบความผิดตามระเบียบของสถานศึกษาหรือของกระทรวงฯ แล้ว #การลงโทษนักเรียนย่อมไม่สามารถทำได้ โดยมิพักต้องคำนึงถึงวิธีการลงโทษใด ๆ เลย ยิ่งเมื่อกล่าวถึงวิธีการลงโทษที่เป็นไปตาม #ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548 ด้วยแล้ว “ก็ยิ่งไม่พบว่ามีข้อไหนที่ให้คุณครูสามารถลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผมแม้แต่ข้อเดียว” ค่ะ
การลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม ≠ การเสริมสร้างระเบียบวินัยให้แก่นักเรียน
- เพราะมีโทษเพียง 4 สถานเท่านั้นที่จะลงแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำความผิดได้ตามข้อ 5 ของระเบียบฯ คือ
- ว่ากล่าวตักเตือน
- ทำทัณฑ์บน
- ตัดคะแนนความประพฤติ
- ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
นอกจากนี้ การลงโทษตามระเบียบฯ ดังกล่าวนั้น มีเจตนาเพียงเพื่อให้คุณครูใช้ “แก้นิสัยและความประพฤติไม่ดีของนักเรียนหรือนักศึกษาให้รู้สำนึกในความผิด และกลับมาประพฤติตนในทางที่ดีต่อไป” ไม่ใช่การลงโทษ “ด้วยวิธีรุนแรง หรือแบบกลั่นแกล้ง หรือลงโทษด้วยความโกรธ หรือด้วยความพยาบาท” ตามที่ข้อ 6 ของระเบียบฯ นี้ ได้บัญญัติห้ามไว้อยู่
จึงขอสรุปให้ทุกท่านเข้าใจตรงกันว่า การลงโทษนักเรียนด้วยการตัดผม รวมถึงการใช้ความรุนแรงอื่น เช่น- การใช้ไม้เรียว- การหยิก ตบ ตีร่างกาย หรือ- การประจานให้อับอาย ฯลฯ
ขอบคุณข้อมูล – กรมประชาสัมพันธ์
ข่าวที่น่าสนใจ
