ธนาคารกสิกรไทย แจงแล้ว ปม ออกโฆษณาขาย ประกันเงินโดนแฮก 299 บาท/ปี คุ้มครองสูงสุด 1 แสนบาท ทำผู้ใช้บริการเดือด
จากกรณีที่โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพข้อความไวรัลของธนาคารสีเขียว ซึ่งในภาพเป็นภาพที่ทางธนาคาร โฆษณาขาย ‘ประกันโดนแฮกเงินหาย‘ จากบัญชี หมดห่วงเรื่องโดนแฮกเงิน ปีละ 299 บาท คุ้มครองสูงสุด 1 แสนบาท! จนทำให้ผู้ใช้บริการไม่พอใจนั้น
ล่าสุดทางธนาคารกสิกรไทย ได้ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวแล้ว โดยระบุว่า
‘ธนาคารกสิกรไทยขออภัยทุกท่านเป็นอย่างสูง สำหรับการแพร่กระจายข่าวการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัย (ประกันช้อปออนไลน์) ในระหว่างที่สังคมเกิดความวิตกกับกระแสข่าวการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้า
ข้อความโฆษณาดังกล่าวเป็นการนำเสนอให้กับลูกค้าในวันที่ 11 ตุลาคม 2564 (ข้อความมีอายุ 7 วัน) ก่อนเกิดกระแสความวิตก โดยทันทีที่ธนาคารทราบถึงความไม่สบายใจดังกล่าว ธนาคารฯ ได้ระงับการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ในทุกช่องทาง ตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2564‘

พร้อมกันนี้ยังได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับโฆษณาดังกล่าว โดยทางธนาคารเสนอขายประกันรูปแบบนี้มาก่อนเกิดเหตุการณ์ที่ผู้ใช้บริการถูกตัดเงิน และได้สั่งระงับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ด้วยรูปแบบข้างต้นในทุกช่องทางแล้ว โดยระบุว่า
ตามที่มีการแพร่กระจายภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ที่มีข้อความว่า “โดนแฮกเงินหาย” นั้น
ธนาคารกสิกไทยขอชี้แจงว่า ประกันดังกล่าว ธนาคารเป็นผู้เสนอขาย โดยจะให้ความคุ้มครองความเสียหาย 3 รูปแบบ ได้แก่
- คุ้มครองผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ กรณีผู้ขายไม่ส่งสินค้าภายใน 7 วันนับจากวันที่แจ้งว่าจะจัดส่ง, ผู้ซื้อได้รับสินค้าไม่ครบตามรายการสั่งซื้อ, สินค้าได้รับความเสียหายทางกายภาพ, สินค้าไม่เป็นไปตามที่โฆษณาประชาสัมพันธ์
- คุ้มครองผู้ขายจากการถูกหลอกลวงให้ส่งสินค้า และไม่ได้รับเงินภายใน 7 วัน นับจากวันที่แจ้งว่าจะจัดส่ง
- คุ้มครองเงินส่วนตัวที่หายจากบัตร บัญชี หรือกระเป๋าเงินออนไลน์ จากการถูกโจรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ โดยวิธีการใช้บัตรชำระเงิน , การเข้าสู่บัญชีธนาคาร , การเข้าสู่ e – Wallet ของผู้เอาประกันภัยโดยไม่ได้รับอนุญาต กรณีที่ไม่สามารถเรียกคืนได้จากผู้ออกบัตร หรือผู้ให้บริการบัญชี / กระเป๋าเงินออนไลน์
โดยธนาคารมีการจัดทำโฆษณาเพื่อสื่อสารทางการตลาดที่สอดคล้องกับประสบการณ์ในการซื้อขายสินค้าออนไลน์ของลูกค้า 7 รูปแบบ ซึ่งข้อเสนอตามภาพเป็นการนำเสนอให้กับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม (ประมาณ 12,000 คน) ผ่าน K PLUS เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 ก่อนจะเกิดกระแสข่าวการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของประชาชนจำนวนมาก ตามที่สื่อต่าง ๆ ได้มีการนำเสนอในช่วงนี้ โดยทันทีที่ทราบประเด็นความเดือดร้อนดังกล่าว ในวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ธนาคารได้ระงับการโฆษณาผลิตภัณฑ์ด้วยรูปแบบข้างต้นในทุกช่องทาง
ทั้งนี้ ขอยืนยัน ว่าธนาคารไม่ได้มีเจตนาในการเสนอขายผลิตภัณฑ์หรือบริการรูปแบบนี้ ในช่วงสถานการณ์ที่สังคมมีกระแสวิตกเช่นนี้แต่อย่างใด
ขออภัยลูกค้าและประชาชนอย่างสูง ที่ทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อกรณีที่เกิดขึ้น
