ทนายนิด้า ชี้ สิ่งที่ยากทำคดีข่มขืน ลั่นคนรวย เก่งจริงเขาไม่ทำกันแบบนี้ ลั่นฟังเรื่องราวแล้วอยากสะอิด สะเอียน
จากกรณีเรื่องราวนักการเมืองฉาวดีกรี อดีตรองหัวหน้าพรรคการเมืองชื่อดังหลอกลวงเหยื่อสาวไปข่มขืนกระทำชำเรา จำนวนหลายราย ก่อนที่จากนั้นจะมีผู้ต้องหา เดินทางแจ้งความตำรวจ สน.ลุมพินี โดยคดีดังกล่าวมีผู้เสียหายเป็นนักศึกษาหญิง วัย 18 ปี และ นักการเมืองหญิง รวมอยู่ด้วย นั้น
ล่าสุด ทนายนิด้า ทนายความหญิงแกร่ง โพสต์เฟซบุ๊กทนายนิด้า แสดงความเคลื่อนไหวกรณีกระแสข่าวนักการเมืองฉาวเช่นกัน โดยระบุว่า สิ่งที่ยากของการทำคดีข่มขืนไม่ใช่เนื้อหาของคดี เพราะเป็นสิ่งที่ทนายความต้องเจอและต้องรับสภาพอยู่แล้ว แต่ที่ยากที่สุด ควบคุมไม่ได้คือสังคมที่พร้อมกระหน่ำเหยียบย่ำเหยื่อ ทั้งการบอกว่าสมยอมบ้างแหละ ตบทรัพย์บ้างแหละ อยากดังบ้างแหละ วิพากษ์วิจารณ์บนความสะใจ โดยไม่เห็นอกเห็นใจคนที่กำลังร่ำร้องหาความยุติธรรมให้ตัวเองอย่างยากลำบาก ถอดใจกันไปไม่รู้กี่ตลบเพราะแบกรับความรู้สึกต่อไปไม่ไหว ใจร้ายเหลือเกิน

ดังนั้นในฐานะทนายความนอกจะต้องรับผิดชอบคดีแล้ว ยังต้องให้กำลังใจเหยื่อด้วย จะด่าอะไรก็มาทนายนี่ มีแรงสวน แต่เว้นพื้นที่ให้เหยื่อหน่อย ซึ่งในการเสียสละตนเองเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของเหยื่อแต่ละคน โดยมีวัตถุประสงค์ในการตัดคนชั่วออกจากสังคม 1 คน เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยไปอีกหลายคน เขากำลังทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ อาจจะมากกว่าไปวัดไปวาเสียด้วยซ้ำ และอาจจะช่วยคนที่กำลังปากหมาคนไหนซักคนที่กำลังด่าเขาอยู่นี้ไม่ให้ถูกข่มขืนไปด้วยในซักวันก็เป็นได้
พร้อมกันนี้ ทนายนิด้า ยังเผยอีกว่าจากที่เคยทำคดีข่มขืนมา ผู้ก่อเหตุหลายคนการศึกษาดี เป็นคนเก่งของสังคม มีฐานะการเงินที่ดี อยู่กับเพื่อนฝูงเป็นสายเปย์ แต่เงินของมันไม่ได้มีไว้สำหรับซื้อกิน ผู้หญิงขายบริการสมยอมด้วยอาชีพ ความสมัครใจไม่ก่อให้ตื่นเต้นเร้าใจสำหรับคนแบบนี้ การละเมิดความยินยอมของใครสักคนเป็นการปลุกเร้าอารมณ์ของคนพวกนี้ให้ตื่นเต้นดี เงินที่มีจึงไม่ใช้จ่ายไปกับการซื้อบริการ แต่มักใช้ไปกับการเคลียร์……. สะอิดสะเอียนทุกครั้งเวลาได้ยินคนพูดว่า รวยขนาดนี้เขาไม่ข่มขืนใครหรอก เก่งขนาดนี้เขาจะไปข่มขืนคนอื่นทำไม ฟังแล้วจะอ้วกทันที

ขณะที่ในส่วนความคืบหน้าคดีดังกล่าว ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้มีการสอบสวน ทั้งผู้เสียหาย พยานแวดล้อม เช่นคนขับรถแท็กซี่ และวัตถุพยาน ที่เกี่ยวข้อง เรียบร้อยแล้ว
ก่อนที่จากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ไปเสนอต่อศาล เพื่อขออนุมัติออกหมายจับ ส่วนจะออกหมายจับได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับเป็นดุลยพินิจของศาล ว่าพิจารณาพยานหลักฐานเพียงพอ หรือต้องการให้ทางตำรวจสอบสวนพยานเพิ่มเติม

ด้านนาย ปริญญ์ พานิชภักดิ์ นักการเมืองที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเรื่องฉาวดังกล่าวได้ตัดสินใจลาออก จากการเป็นรองหัวหน้าพรรคการเมืองแห่งหนึ่งทันที พร้อมเผยเหตุผลว่า แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ได้กระทบกับพรรคที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่
ซึ่งตนต้องรับผิดชอบกับงาน และยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ตนจึงของลาออกจากทุกตำแหน่งใพรรคเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต่อไป โดยตนยอมรับว่ารู้สึกช็อคและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย โดยตนยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ และไม่ใช่ความจริงหลายคนที่รู้จักตน รู้ดีตนไม่ใช่คนอย่างนั้น
อ่านข่าวอื่นเพิ่มเติม
ทนายเดชา ลั่น! เมื่อมีหมายจับก็ต้องจับ ปมฉาวรองหัวหน้าพรรคลวนลามสาว
อย่ามโน! เทพไท โต้กระแสแชทหลุดให้กำลังใจ ปริญญ์ ผู้ต้องสงสัยขืนใจเหยื่อสาว
แอนนา หวั่นนาย ป. หลบหนี ซัดก่อเหตุฉาวร่วม 20 ปี วอนอย่าโยงการเมือง