โรงพยาบาลจุฬาฯ เปิดประสิทธิภาพ วัคซีนไฟเซอร์ ในเด็กอายุ 12-18 ปี พร้อมผลข้างเคียงและอาการที่สามารถเกิดได้หลังฉีด
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็ก ชนิด mRNA หรือไฟเซอร์ โดยระบุว่า
วัคซีน Pfizer เป็นวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ชนิด mRNA ที่มีการอนุมัติใช้กับเด็กอายุตั้งแต่ 12-18 ปี ภายในประเทศไทยเป็นชนิดแรก (ณ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2564) โดยมีข้อมูลการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัย ดังต่อไปนี้
ประสิทธิภาพของวัคซีน Pfizer ในเด็ก
1. วัคซีน Pizer มีประสิทธิภาพ 100% ในการป้องกันโรคโควิด-19 ที่แสดงอาการ เมื่อเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพการป้องกันในผู้ใหญ่
2. วัคซีน Pfizer สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันในเด็ก ระดินใกล้เคียงกับ ผู้ใหญ่อายุ 18-25 ปี โดยมีระดับภูมิคุ้มกันอยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก

ผลข้างเคียงของวัคซีน Pfizerในเด็ก
ผลข้างเคียงที่พบบ่อย เช่น เจ็บบริเวณตําแหน่งที่ฉีด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ
อาการข้างเคียงเฉพาะที่ ที่เกิดขึ้นเล็กน้อย เช่น บวม แดงในตําแหน่งที่ฉีด
อาการข้างเคียงทั้งระบบ เช่น ไข้ หนาวสั่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ
อาการข้างเคียง กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเป็นอาการข้างเคียง ที่พบรายงานในอัตราต่ำมาก
คําแนะนําจากแพทย์
จากภาพรวมข้อมูลด้านประสิทธิภาพของวัคซีน Pizer ที่มีการฉีดในเด็กพบว่า มีผลดีมากกว่าผลข้างเคียง ซึ่งพบได้ ในอัตราที่ต่ำ ปัจจุบันในประเทศไทยแนะนําให้ฉีดวัคซีนในผู้ป่วยเด็กที่มีโรคประจําตัวหรือมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ซึ่งขณะนี้มีเพียงวัคซีนชนิด mRNA เช่น วัคซีน Pfizer ที่มีข้อแนะนําให้สามารถฉีดในเด็กได้ ส่วนวัคซีนชนิดอื่น ๆ เช่น วัคซีนชนิดเชื้อตาย หรือชนิดไวรัสเวกเตอร์ ยังไม่มีคําแนะนําการฉีดในเด็ก
