ไม่เห็นที่คุยกันไว้! องค์กรแพทย์ รพ.ขอนแก่น ออกแถลง ทวนวัคซีน “ไฟเซอร์” ให้บุคลากรหน้าด่าน จำนวน 1,400 คน กลับได้รับแค่ 700 โดส
หลังจากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับการบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากหลายประเทศ โดยล่าสุดที่ยังคงเป็นประเด็นต่อเนื่อง คือ การบริจาควัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.5 ล้านโดส โดยประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งกลุ่มหลักๆ ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์คือ กลุ่มบุคลากรหน้าด่าน บุคลากรทางการแพทย์ อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีประเด็นเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนให้กลุ่มหน้าด่านอีกด้วย ทำโลกออนไลน์ติด#ทวงpfizerให้หน่วยด่านหน้า
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ทางเพจเฟซบุ๊ก สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เผยว่า ณ สำนักงานควบคุมป้องกันโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น นายแพทย์สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลานายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นรับมอบวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรก 9,840 โดส โดยกองโรคติดต่อทั่วไปจัดส่งวัคซีนโควิด 19 Pfizer รอบต้นเดือนสิงหาคม 2564 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อลดการป่วยรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต และปกป้องระบบสาธารณสุขของประเทศ โดยมอบหมายให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาเร่งรัดการให้วัคซีนกับกลุ่มเป้าหมาย ภายในอาทิตย์นี้ เบื้องต้นมีบุคลากรด่านหน้าแจ้งความประสงค์ฉีด17,000 คน
ล่าสุด ทาง องค์กรแพทย์ รพ.ขอนแก่น ได้ออกแถลงการณ์เรื่องการขอวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าโรงพยาบาลขอนแก่น โดยระบุว่า ตามที่ทราบกันดีว่าประเทศไทยได้รับบริจาควัคซีนไฟเซอร์จากประเทศสหรัฐอเมริกา 1.5 ล้านโดส และจะมีการจัดสรรให้กับบุคลากรสาธารณสุขด่านหน้าอย่างเร่งด่วนเพื่อรับมือกับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด -19 ที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ
โรงพยาบาลขอนแก่นนับเป็นโรงพยาบาลหลักในการดูแลผู้ป่วยโควิดทุกความรุนแรงของจังหวัดขอนแก่นตั้งแต่ผู้ป่วยคลัสเตอร์ฟันน้ำนม คลัสเตอร์แรงงาน คลัสเตอร์เรือนจำและทัณฑสถาน ไปจนถึงผู้ป่วยหนักอาการวิกฤตสำหรับโควต้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์มีบุคลากรทางการแพทย์ลงชื่อรับวัคซีนไฟเซอร์เป็นจํานวน 1400 คน แต่โรงพยาบาลขอนแก่นกลับได้รับการจัดสรรวัคซีนเป็นจำนวนเพียง 700 โดสเท่านั้น
ทั้งที่เป็นการขอตรงตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดทุกประการองค์กรแพทย์โรงพยาบาลขอนแก่นจึงขอเรียกร้องให้มีการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้เพียงพอต่อจำนวนบุคลากรด้านหน้าของโรงพยาบาลขอนแก่นเพื่อเป็นการปกป้องชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ทุ่มเทรักษาผู้ป่วยอย่างเต็มความสามารถมาโดยตลอด

สามารถติดตามข่าวสาร และ อัปเดทสถานการ์โควิด-19 ได้ที่ เว็บไซต์ Bright Today หรือ Facebook Bright TV