กระทรวงสาธารณสุข เผยข้อมูลเพิ่มเติม ซิโนแวค ผู้ที่ฉีดวัคซีนสามารถป้องกันการป่วยได้ 78% และป้องกันอาการรุนแรงถึง 100%
เมื่อวันที่ 13 ม.ค. หลังจากกรณีการทดลองฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” จากประเทศจีนในบราซิล กระทรวงสาธารณสุข นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ประชาชนมีข้อกังวลเกี่ยวกับผลการทดสอบวัคซีนบริษัท ซิโนแวค ที่ทดลองฉีดในประเทศบราซิล ข้อมูลในการแถลงของสถาบันบูตันตัน เป็นการเสนอข้อมูลประสิทธิภาพในภาพรวม ของการทดลองในพื้นที่ที่มีการระบาดสูง และเป็นอาสาสมัครบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อมากกว่าคนปกติ ทำให้ได้ผลในด้านการป้องกันการติดเชื้อเพียงร้อยละ 50.4
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องการป่วย โดยกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนสามารถป้องกันการป่วยได้ 78% และป้องกันอาการรุนแรงถึง 100% ดังนั้น ซึ่งไม่ว่าบริษัทใดก็ตามที่มีผลการทดลองเฟส 3 เป็นผลการทดลองในระยะต้นทั้งสิ้น การทดลองในเฟส 3 จะสมบูรณ์แบบได้ ต้องใช้เวลาประมาณปีครึ่ง จึงจะได้ข้อสรุปถึงประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของการใช้วัคซีน จึงต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน
นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า ข้อดีของวัคซีนจากประเทศจีน คือ เป็นการใช้เชื้อตายฉีดเข้าร่างกาย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ถือเป็นรูปแบบดั้งเดิม เช่น วัคซีนไวรัสตับอักเสบ โปลิโอ และมีข้อมูลว่า ประเทศจีนนำไปฉีดให้กลุ่มทหาร และบุคลากรทางการแพทย์หลายแสนคน ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง ทั้งนี้ การพิจารณาการนำวัคซีนมาใช้ ต้องดูคุณสมบัติหลายด้าน เช่น คุณภาพ ประสิทธิภาพ ราคา จำนวนปริมาณ ระยะเวลาในการจัดส่ง รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ ที่เหมาะสมกับประเทศไทย
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงสาธารณสุข จะจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ และต้องไม่พบอาการที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่ง WHO ได้ประกาศว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนเกิน 50% ขึ้นไปสามารถใช้ได้ ขอประชาชนไม่ตระหนก กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานขอข้อมูลจากซิโนแวคเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19” นพ.ศุภกิจกล่าว
หมอธีระ แนะชั่งผลดีผลเสียฉีด วัคซีนโควิด อาจไม่ใช่แค่เรื่องผลข้างเคียง