สมชาย ปธ.กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ชี้ ปอ โรเบิร์ต มีโทษจำคุก คดีแตงโม พร้อมเผยอาจมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลรับโทษเพิ่ม
ความคืบหน้ากรณี แตงโม นิดา ดารานักแสดงสาว พลัดตกเรือสปีดโบ๊ต เสียชีวิตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา โดยคดีได้ล่วงมากว่า 1 เดือน แต่ยังเป็นที่ครหา คลางแคลงใจข้อสงสัยต่อประชาชน นั้นล่าสุด นายสมชาย แสวงการ ประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค โพสต์เฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ เกี่ยวกับคดีแตงโม โดยระบุว่า คดีแตงโมยังไม่จบอาจมีคนติดคุกเพิ่ม จากผลพวงบิดเบือนเรื่องจริงเป็นเท็จ โดยเตรียมตัวเปลี่ยนสถานะกันได้เลย

ซึ่ง จากการติดตามความคืบหน้าล่าสุดในข่าวคดีแตงโม เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้มีการดำเนินการหลายเรื่องที่กมธ เคยมีข้องสังเกตุและเสนอแนะ อาทิ การสอบสวนพยานบนเรือเพิ่มเติมอีก และอื่นๆ ฯลฯ
ซึ่งอาจทำให้ความขัดแย้งในการให้การต่างๆในคดีที่ดูจะขัดกัน เริ่มปรากฎความชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะข้อสังเกตุเกี่ยวกับการให้การเป็นพยานเท็จ การทำลายหลักฐาน การให้คำปรึกษาเพื่อไม่ต้องให้รับโทษหรือรับโทษน้อยลง หรืออาจพลิกหากมีหลักฐานว่าร่วมสนับสนุนการกระทำผิดด้วย

ขณะนี้จึงน่าจะประมวลข้อมูลและข้อกฎหมายเบื้องต้นนอกเหนือจากที่ผู้ต้องหา 2 คนคือนายปอกับนายโรเบิร์ต อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา291 ผู้ใดกระทําโดยประมาท และการกระทํานั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวาง โทษจําคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท แล้ว อาจมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อาจต้องรับโทษเพิ่ม

เท่าที่พอเห็นเค้าลางขณะนี้แบ่งได้เป็น 3-4 บุคคลหรือกลุ่มบุคคล ดังนี้ ครับ
1.บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่แจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 172 ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา
แก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยว่ามีการจงใจทำลายหลักฐานทิ้งหายไป
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 184 ผู้ใด เพื่อจะช่วยผู้อื่น มิให้ต้องรับโทษ หรือ ให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือ ทำให้สูญหาย หรือ ไร้ประโยชน์ ซึ่ง พยานหลักฐาน ในการกระทำความผิด ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือ ปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
3.บุคคลหรือกลุ่มบุคคลอื่นนอกเรือที่ช่วยให้คำปรึกษาแนะนำ
โดยมีเจตนา คือรู้หรือควรรู้ว่าบุคคลนั้น เป็นผู้กระทำ ความผิดหรือ
รู้ว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ต้องหากระทำความผิด และมีมูลเหตุจูงใจเพื่อไม่ให้ต้องโทษ
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 189 ผู้ใด ช่วยผู้อื่น ซึ่งเป็นผู้กระทำ ความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

4.หากเป็นกรณีถ้าคดีพลิกมีหลักฐานว่าเป็นการร่วมกันช่วยเหลือสนับสนุนการกระทำความผิด บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ร่วมสนับสนุนจะมีความผิดรับโทษ2ใน3 นั้นด้วย
ตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 86 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิด ก่อนหรือขณะกระทำ ความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความ สะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษ 2 ใน 3 ส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
ส่วนการสืบสวนสอบสวนจะเป็นไปตามนี้หรือไม่จะพาดพิงไปถึงใคร มีพยานหลักฐานมากน้อยแค่ไหน รัดกุมเพียงใด
ขอให้ทุกท่านอดใจรอ
เชื่อมั่นเถอะครับว่าเรื่องที่สังคมต้องการความยุติธรรมและต้องการเห็นความเป็นธรรมกับคดีแตงโมนั้น ไม่สูญเปล่าครับ
คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนฯ วุฒิสภา จะไม่วางมือจะคอยช่วยติดตามต่อเนื่อง
เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและความเป็นธรรมแน่นอนครับ
ทนายเดชา ยืนยันศาลออกหมายจับจริง แซน วิศาพัศ เสี่ยงโดนจับหากไม่มอบตัว
เต้ มงคลกิตติ์ ชมตำรวจเพิ่มข้อหา ปอ โรเบิร์ต ศาลออกหมายจับ แซน คดีแตงโม
นักสืบโซเชียลลุย บิ๊กเกรียน เพจดังเตรียมล่าคนวางสคริปต์ คลายปมคดีแตงโม