คืบหน้าการโจรกรรม สมุดข่อยโบราณ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจเผย คนในแอบฉกสมบัติเหล่านี้ออกมามากกว่า 1,000 เล่ม
จากเหตุการณ์ที่ สมุดข่อยโบราณ ที่เก็บรักษาไว้ในศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช หายไปจำนวนมาก และพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์รับบิณบาตคืนหนังสือบุดสมุดข่อย พร้อมทั้งเข้าแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช
ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช แถลงว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสนจนสามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว 1 คน และเตรียมขออนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 1 คน พร้อมทั้งมีการสอบสวนขยายผลต่อไป การสอบสวนพบว่าผู้กระทำความผิดเป็นบุคคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏเป็นผู้ที่ก่อเหตุเองขณะที่ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาหนังสือบุดสมุดข่อยเอง โดยสมุดข่อยที่ถูกโจรกรรมไปนั้น ประกอบด้วยกลุ่มหนังสือบุดโบราณที่ได้ถูกขึ้นทะเบียนไว้แล้ว สูญหายไปทั้งหมด 309 เล่ม คงเหลือ 1,200 เล่ม กลุ่มที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเหลือ 1,300 เล่ม ในกลุ่มนี้ไม่ทราบจำนวนที่สูญหายอย่างแท้จริง แต่คาดว่าอาจสูญหายไปถึง 1,000 เล่ม และมักถูกนำไปขายในตลาดมืด
ด้านคณะสงฆ์และประชาชน ไม่ติดใจเอาความกับผู้กระทำผิดแต่ขอให้นำหนังสือบุดสมุดข่อยเหล่านี้มาคืน และอยากให้ผู้กระทำผิดตระหนักว่า ของเหล่านี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่มีอยู่ในโลก อย่าได้ทำลายหลักฐานทิ้งไป ขอให้นำมามอบคืนให้กับแผ่นดินนครศรีธรรมราช เพราะนี่คือหลักฐานทางวิชาการที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนครศรีธรรมราช และเรื่องที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ที่หลงเหลืออยู่
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาตินครศรีธรรมราช เปิดเผยถึงความสำคัญของหนังสือบุดว่า ในทางวิชาการรจะเรียกว่าเอกสารโบราณที่สำเร็จขึ้นมาด้วยการ หัตถกรรม คือ การทำด้วยมือไม่ใช่การพิมพ์ ซึ่งจะประกอบไปด้วยศิลาจารึกสมุดไทยคัมภีย์ใบลาน สำหรับหนังสือบุด ทางวิชาการจะเรียกว่าสมุดไทย มีทั้งตำรายาต่างๆ ตำราเวทมนต์ โหรราศาสตร์ การดูดวง สรรพวิชาโบราณอยู่ในสมุดเหล่านี้ ซึ่งปัจจุบันมีคุณค่าที่ไม่สามารถประเมินเป็นเงินได้
