องค์การเภสัช แจงเหตุผลเซ็นสัญญาซื้อ โมเดอร์นา ล่าช้า เผย ต้องรอเอกชนรวบรวมยอดก่อนและงบประมาณก่อนจึงจะสามารถเซ็นสัญญาได้
นายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงกรณีการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ว่า อภ.มีการติดต่อกับบริษัทโมเดอร์นาโดยตรงตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ว่าจะสามารถได้วัคซีนในมิถุนายน 2564 หรือไม่ โดยบริษัทตอบกลับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ว่า วัคซีนมีจำกัดและ มีความต้องการสูงมาก สามารถส่งได้เร็วที่สุดคือไตรมาสแรกของปี 2565 และวันที่ 1 เมษายน
อภ.สอบถามเพิ่ม ว่ามีบริษัทตัวแทนหรือไม่เนื่องจากมีเอกชน 2 รายระบุว่าสามารถนำเข้ามาได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว บริษัทตอบกลับวันที่ 2 เมษายนว่า มีบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด เป็นผู้แทนบริษัทเดียว จากนั้นวันที่ 21 เมษายน มีการตกลงกันว่าวัคซีนโมเดอร์นาจะเป็นวัคซีนทางเลือก และวันที่ 15 พฤษภาคม บริษัทซิลลิค ประกาศว่า การจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์นาต้องจัดซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐเท่านั้น ทำให้ อภ.ได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนดำเนินการสั่งซื้อให้เอกชน
“เมื่อถามว่าทำไมถึงล่าช้า เนื่องจากเป็นการจัดซื้อด้วยงบของเอกชน ไม่ใช่งบประมาณภาครัฐ จึงต้องรอเอกชนรวบรวมยอด ซึ่ง อภ.ประสานกับสมาคมโรงพยาบาลเอกชนมาตลอด พบว่ามีความต้องการกว่า 9 ล้านโดส แต่จากการเจรจาบริษัทระบุว่าส่งให้ได้ไตรมาส 4 ปี 2564 ประมาณ 4 ล้านโดส และไตรมาส 1 ปี 2565 ประมาณ 1 ล้านโดส ถือว่าเร็วขึ้น จึงต้องรวบรวมยอดและเงินมาให้ อภ.ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ถึงไปเซ็นสัญญาได้ ซึ่งวางไว้ที่ต้นเดือนสิงหาคม” นายแพทย์วิฑูรย์กล่าว
นายแพทย์วิฑูรย์กล่าวต่อว่า เอกสารสัญญาเพิ่งได้รับจากบริษัทซิลลิคเมื่อช่วงเช้าวันที่ 2 กรกฎาคมและส่งสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาช่วงบ่ายวันเดียวกัน โดยบางเรื่องอาจต้องเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ด้วย ถ้าสัญญาเรียบร้อยทางโมเดอร์นายืนยันว่า จะส่งวัคซีนให้ไทยได้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ซึ่งแต่อาจเป็นได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-31 ธันวาคม เพราะกำหนดกรอบมากว้าง ๆ แต่พยายามเจรจาขอให้จัดส่งให้ได้เร็วขึ้นอีก รวมถึงเจรจาว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะส่งวัคซีนจากประเทศที่ไม่ได้ลงนามสัญญากับโมเดอร์นาเพื่อให้ได้วัคซีนเร็วขึ้น นอกจากนี้ อภ.มีการติดตามวัคซีนชนิดอื่น ๆ เช่น วัคซีนซับยูนิตโปรตีน วัคซีนเชื้อตาย และมีการศึกษาวิจัยวัคซีนเอง โดยผ่านการทดลองในเฟส 1 แล้ว กำลังจะทดสอบเฟส 2 ช่วงเดือนสิงหาคมนี้
ด้านนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า นอกจากวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวคที่จะมีเข้ามาทุกเดือนนั้น ยังมีการเจรจาจัดหาวัคซีนชนิดอื่นเข้ามาเพิ่มเติมด้วย เช่น วัคซีน mRNA ของไฟเซอร์ 20 ล้านโดส ซึ่งมีการหารือเจรจากันมาก่อนที่จะขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. โดยมีการลงนามเอกสารไปแล้ว 2 ฉบับ คือ เอกสารที่สัญญาว่าเมื่อรับทราบข้อกำหนดเบื้องต้นจะไม่เปิดเผยข้อมูล เมื่อปลายเดือนเมษายน และเอกสารการจองวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2564 ตอนนี้เหลือสัญญาจัดซื้อวัคซีน ซึ่งบริษัทเพิ่งมาให้เมื่อปลายเดือนมิถุนายนซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดตรวจสัญญาคาดว่าจะเสร็จในวันที่ 5 กรกฎาคมนี้ และจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.วันที่ 6 กรกฎาคม ถ้าเรียบร้อยก็ลงนามสั่งซื้อต่อไป และจะเจรจาขอให้ส่งมอบเร็วขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ
มาถึงขั้นนี้แล้ว! ลูกจ้างตกงาน นั่งขออาหารริมหาดพัทยา เจอพิษโควิดไร้การเยียวยาจากรัฐ
วัคซีน “โควาซิน” สัญชาติอินเดีย เผยผลการทดลองระยะ 3 ต้านเชื้อเดลต้าได้ 65.2%
เกาหลีใต้ สั่งห้ามฉีด แอสตราเซนเนก้า ให้ปชช.อายุต่ำกว่า 50 ปี เหตุ กังวลภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
