กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศช่วงสงกรานต์ หลายพื้นที่อากาศร้อนจัด แตะ 40-41 องศา เตือน 12-15 เมษายน 2568 ไทยตอนบนเผชิญพายุฤดูร้อน – ฟ้าผ่า ลูกเห็บตก
วันที่ 9 เมษายน 2568 กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า ระหว่างวันที่ 9-15 เมษายน 2568 ระบุว่า ในช่วงวันที่ 10-11 เมษายน อากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง อุณหภูมิสูงสุด 40-41 องศาเซลเซียส ส่วนกรุงเทพและปริมณฑล อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส
จากนั้นในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน ประเทศไทยตอนบน ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางอีกระลอกจากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้จะทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่

คาดหมายอากาศรายภาค ดังนี้
ภาคเหนือ
ในช่วงวันที่ 10-11 เมษายน อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางด้านตะวันตกและตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 20-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-41 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-39 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในช่วงวันที่ 10-11 และ 15 เมษายน อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-40 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 12-14 เมษายน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 18-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-37 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง
ในช่วงวันที่ 10-11 เมษายน อากาศร้อนโดยทั่วไป และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-41 องศาเซลเซียส
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส
ภาคตะวันออก
ในช่วงวันที่ 10-11 เมษายน อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 24-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-39 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
ในช่วงวันที่ 10-13 เมษายน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ส่วนในช่วงวันที่ 14-15 เมษายน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
– ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
– ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ทะเลมีคลื่น 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
ในช่วงวันที่ 10-13 เมษายน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่ง
ในช่วงวันที่ 10-12 เมษายน ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ในช่วงวันที่ 14-15 เมษายน มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-36 องศาเซลเซียส
กรุงเทพและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 10-11 เมษายน อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่
ในช่วงวันที่ 12-15 เมษายน มีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 25-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส

ขอบคุณภาพเฟซบุ๊ก กรมอุตุนิยมวิทยา