ยิ่งกว่าใจสลาย! แม่ร้องปวีณา ลูกสาววัย ม. 2 โดนรุ่นพี่-เพื่อนใน รร. แกล้ง ตบตี-เตะบอลอัด นาน 8 เดือน สุดท้ายทนไม่ไหวกินยา ฆตต.
วันที่ 27 มกราคม 2568 เวลา 11.00 น. ณ มูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แม่และลูกสาว นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 วัย 14 ปี จาก จ.กำแพงเพชร ได้เดินทางมายังมูลนิธิปวีณาเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากที่ลูกสาวถูกกลุ่มนักเรียนชาย 4 คน รวมตัวกันบูลลี่และทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2567 จนสุดท้ายทนไม่ไหวพยายามกินยาฆ่าตัวตาย

ลูกสาว เผยว่า ถูกเพื่อนร่วมชั้นและรุ่นน้อง รวมถึงรุ่นพี่ในโรงเรียนรังแกหลายรูปแบบ เช่น การเตะฟุตบอลใส่ใบหน้า, ถีบหลัง, ตบศีรษะ, ยกขาพาดไหล่ รวมทั้งการกลั่นแกล้งในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ทิ้งสิ่งของส่วนตัวไปในถังขยะและข่มขู่ห้ามบอกใคร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกสาวเกิดความเครียดและไม่อยากไปโรงเรียน

เหตุการณ์รุนแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2568 เมื่อความเครียดสะสมทำให้ลูกสาวคิดสั้นและกินยาพารา 30 เม็ดหวังจะจบชีวิต แต่โชคดีที่พ่อแม่เห็นและส่งตัวลูกสาวไปโรงพยาบาลทันซึ่งต้องใช้เวลาในการรักษาอยู่ 3 คืน 4 วัน และแพทย์วินิจฉัยว่าลูกสาวมีอาการเครียดสะสมและป่วยซึมเศร้า

แม้จะได้รับการรักษาและพยายามให้กำลังใจจากพ่อแม่ แต่ลูกสาวยังคงถูกกลุ่มนักเรียนชายส่งข้อความมาหยามเหยียดและเยาะเย้ยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ลูกสาวพยายามฆ่าตัวตายอีกครั้ง แม่จึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อขอให้มีการลงโทษนักเรียนที่กระทำผิดและให้การสนับสนุนฟื้นฟูจิตใจของลูกสาว โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานงานกับทางการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งในเรื่องการย้ายโรงเรียนและการดูแลสภาพจิตใจของเด็กต่อไป

นางปวีณา กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการช่วยเหลือเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาในโรงเรียน โดยได้ประสาน ดร.ธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ดร.ตฤณ ก้านดอกไม้ ผอ.ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. ได้มอบหมายให้ นายธีรดนย์ สีฟ้า ผอ.กลุ่มส่งเสริมความสุขและความปลอดภัย ศสป. สพฐ. และเจ้าหน้าที่ศูนย์ความปลอดภัย สพฐ. มาร่วมประชุมและรับเรื่อง โดยให้ตั้งคณะกรรมการสอบโรงเรียนให้มีมาตราการลงโทษนักเรียนผู้กระทำผิด หากพบมีการกระทำความผิดจริงก็จะต้องดำเนินการลงโทษตามมาตรการ และให้ผู้ปกครองเข้ามารับทราบเนื่องจากนักเรียนที่กระทำความผิดยังเป็นเยาวชน ซึ่งไม่ควรจะทำแบบนี้กับเพื่อน หรืออาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะร่วมกับ สพฐ. ช่วยเหลือ ด.ญ. ผู้เสียหายรายดังกล่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป