เจอแล้ว! เพจดัง ช่วยตามหาแมว ถูกเจ้าของหอ ยัดใส่ถุงปุ๋ย จ้างคนไปทิ้ง

เพจดัง เข้าช่วยสาวเจ้าของแมว 3 ตัว ที่ถูกเจ้าของหอพัก จับใส่ถุงปุ๋ย จ้างคนนำไปปล่อยทิ้ง ข้างสะพานข้ามคลอง ลุยแจ้งเอาผิดผู้กระทำทั้งหมด

จากกรณีเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567 เวลา 13.46 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊ครายหนึ่งได้โพสต์รูปน้องแมวทั้ง 3 ตัว พร้อมโพสต์ข้อความตามหาแมวทั้ง 3 ตัว ซึ่งเธอนั้นโดนเจ้าของหอพักแห่งหนึ่งย่าน รามคำแหง 81/2 แถว ราม81/1 ที่เอาแมวไปปล่อย โดยตัวเธอนั้นกำลังทยอยเก็บของออก เพื่อขนไปยังที่พักใหม่ เมื่อถามหาที่นำไปปล่อยเจ้าของหอกลับไม่ตอบนั้น

ล่าสุดวันนี้ 6 กันยายน 2567 เวลา 08.53 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊คเพจ The Hope Thailand ได้มีการโพสต์อัปเดทรูปที่เจอน้องแมวทั้ง 3 ตัวพร้อมส่งคืนให้กับเจ้าของอย่างปลอดภัย โดยทางเพจได้ระบุข้อความว่า เขานั้นได้ติดตามจนได้น้องแมวกลับคืนครบทั้ง 3 ตัว

โดยเมื่อวานเขาได้ลงพื้นที่พร้อมกับเจ้าของแมวตั้งแต่ช่วงกลางวัน โดยตามหาตัว “ตาศรี” ซึ่งเป็นคนเก็บของเก่าที่ได้รับการว่าจ้างให้เอาแมวไปปล่อยจนเจอ แล้วให้ ตาศรี พาไปชี้จุดที่เอาแมวไปปล่อย ซึ่งก็เป็นบริเวณใต้สะพานข้ามคลองแสนแสบที่เชื่อมต่อระหว่างซอยรามคำแหง 81 กับซอยลาดพร้าว 130 ทาง ตาศรี ยอมรับว่ามีการจ้างให้เอาไปปล่อยจริงโดยแม่บ้านของหอพักสีเขียว บริเวณซอยราม 81 แต่ยังไม่ได้รับค่าจ้าง

ลักษณะตอนที่พ่อบ้านแม่บ้านนำแมวมาส่งให้คือ ยัดใส่ถุงปุ๋ยตัวละถุง ซึ่งแต่ละถุงนั้นมัดปากถุงด้วยเชือกไนล่อน และยัดใส่ถุงดำอีกทีหนึ่ง ซึ่งตาศรีเห็นแล้วก็เกิดความสงสาร ในช่วงที่เอาแมวไปปล่อยที่ใต้สะพานจึงรีบตัดปากถุงออกเพื่อให้แมวมีอากาศหายใจ แล้วจึงปล่อยทิ้งใต้สะพานเพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัยกับแมวที่สุด

วิธีการตามหานั้นเขาได้ใช้วิธีการสอบถามคนทั่วบริเวณ และมุดเข้าไปใต้สะพาน จนในที่สุดในช่วงบ่าย ก็พบเจอแมวตัวแรกคือเจ้า ”ส้มโอ” เจ้าแมวตัวสีส้มนอนหมอบหลบซุกอยู่บริเวณกองไม้ใต้สะพาน และต่อมาอีกประมาณเกือบชั่วโมงจึงพบเจ้า ”ลำใย” แมวสีขาวตัวอ้วนอีกตัวนึงในบริเวณที่ห่างกันไม่มากนัก

แต่ค้นจนทั่วบริเวณและตามหาในบริเวณใกล้เคียงทั้งหมดก็ยังไม่พบเจ้า ”มังคุด” แมวน้อยอายุสี่เดือนลายสลิดอีกตัวหนึ่ง จึงใช้เวลาตั้งแต่บ่ายจนถึงดึก โดยมีการทำใบปลิวตั้งรางวัลแจกทั่วบริเวณทั้งในส่วนวินมอเตอร์ไซค์ต่าง ๆ และร้านค้า ชุมชนใกล้เคียง มีน้อง ๆ แฟนคลับคนรักแมว ออกมาช่วยกันตามหาหลายคน

จนกระทั่งเวลา 22.40 น. เขาพาน้องเจ้าของแมวเข้าไปติดตามคดีที่ สน.หัวหมาก เพื่อที่จะสอบถามว่าทำไมถึงไม่ลงบันทึกเป็นคดี ทั้งที่องค์ประกอบความผิดสำเร็จเบ็ดเสร็จหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น บุกรุก ลักทรัพย์ หรือที่ชัดที่สุดก็คือ ทารุณกรรม และอาจรวมถึงทำให้เสียทรัพย์ กรณีที่หาแมวไม่เจอ เหตุผลที่เลือกไปเวลากลางคืนก็เพราะว่าในคืนวันที่ 4 กันยายน 2567 น้องเจ้าของแมวได้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ร้อยเวรเจ้าของคดีในช่วงเวลาดึกนี้เช่นกัน

ซึ่งตลอดวันเขานั้นได้พยายามโทรติดต่อผู้กำกับ สน. หัวหมาก แต่ก็ติดต่อไม่ได้ ทั้งที่มีเบอร์ และเคยประสานกันอยู่รวมถึงโทรติดต่อร้อยเวรเจ้าของคดีก็ไม่มีการรับสาย จนกระทั่งโทรมาเบอร์ตรงของสถานีตำรวจก็ไม่มีผู้รับสายเช่นกัน เขาก็เลยคิดว่าคงต้องเข้าไปหาด้วยตัวเองน่าจะรู้เรื่องมากที่สุด

เมื่อเข้าไปพบว่าร้อยเวรเจ้าของคดีลา 2 วัน จะแจ้งความใหม่เพื่อให้คดีดำเนินโดยต่อเนื่องก็ไม่มีตำรวจรายไหนกล้ารับแจ้ง โยนมาให้คุยกับรองสารวัตรสอบสวนในวันรุ่งขึ้นแทน

ซึ่งเขาก็บอกไปแล้วว่าเรื่องราวเหล่านี้มันรอช้าไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับชีวิตของสัตว์เป็นตัวประกัน และที่สำคัญตำรวจเองในฐานะเป็นที่พึ่งของประชาชนต้องตอบคำถามกับสังคมให้ได้ และต้องตอบคำถามกับผู้สื่อข่าวที่จะมาสัมภาษณ์ในวันรุ่งขึ้นให้ได้ แต่สุดท้ายเหมือนเดิมคือ ไม่มีใครกล้ารับแจ้งความ ตนก็เลยบอกว่า งั้นก็จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายให้เต็มที่นะ เตรียมตอบคำถามสังคมให้ดีด้วย จากนั้นเขากลับออกมาหาแมวกันต่อ

ต่อมาเมื่อเวลา 23.15 น. ก็มีสายโทรเข้ามาจากน้อง ๆ อาสากลุ่มคนรักแมวที่เฝ้าอยู่ใต้สะพานว่า พบเจอแมวน้อยอีกตัวนึงใกล้จุดที่เอาไปปล่อย โดยแมวน้อยแอบซุกอยู่ในโพรงหินใต้สะพาน เจ้าของแมวเข้าไปเรียกทำให้เจ้าแมวน้อยเดินออกมาหา และพบว่าเป็น ”เจ้ามังคุด” จริง จึงได้อุ้มเพื่อที่จะนำกลับบ้าน

ทางเพจ The Hope Thsailand จะขอมอบเงินรางวัลในการตามหาจำนวน 2,000 บาท ให้กับน้องอาสาที่ชี้เบาะแสจนพบเจอ ซึ่งก็คือ น้องอาร์และน้องกบ แต่น้องทั้งสองไม่รับบอกตั้งใจที่จะมาช่วยหาจริง ๆ ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ

ในส่วนของเรื่องของการแจ้งความดำเนินคดีนัดกันไว้ว่าเช้าวันนี้ประมาณ 10 โมง ผมจะพาเจ้าของแมวเข้าแจ้งความดำเนินคดี เจ้าของหอพัก แม่บ้าน และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเจตนา ในข้อหาต่าง ๆ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก และจะถามให้ชัดเจนกับทางผู้กำกับว่า เพราะอะไรถึงไม่รับเป็นคดีทั้งที่ความผิดสำเร็จเบ็ดเสร็จชัดเจนแล้ว รวมถึงนำตัว ตาศรี เข้าไปให้การเป็นพยานด้วย