เด็กวัยรุ่นจุดพลุโอ่ง หน้าร้านขายทุกอย่าง 20 บาท จ.สมุทรสาคร ทำให้ไฟไหม้ร้าน เสียหายประมาณ 5-6 ล้านบาท จนท. ดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2567 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ร้านจำหน่ายสินค้า 20 บาท และของใช้เบ็ดเตล็ด ตั้งอยู่ในพื้นที่ตลาดนัดรถไฟ ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่ได้ประสานทีมดับเพลิงจากองค์การบริหารส่วนตำบลท่าไม้และพื้นที่ใกล้เคียง รวมกว่า 10 คัน เข้าระงับเหตุ
ไฟได้โหมลุกไหม้อย่างรวดเร็วเนื่องจากร้านมีขนาดใหญ่ประมาณ 1 ไร่ และเต็มไปด้วยสินค้าจำนวนมาก ทั้งนี้ยังมีเสียงคล้ายพลุหรือแก๊สกระป๋องระเบิดดังเป็นระยะ สร้างความยากลำบากในการดับไฟ เพลิงสงบลงในเวลา 1 ชั่วโมงต่อมา แต่ร้านและสินค้าภายในถูกเผาวอดทั้งหมด คาดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 5-6 ล้านบาท โชคดีที่พนักงานและลูกค้าในร้านรวม 5 คน สามารถหนีออกมาได้ทัน โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

- ด่วน! โรงงานถล่ม แผ่นปูนทับผู้รับเหมา นิคม 304 จ.ปราจีนฯ ดับ 5 ราย
- ระทึก! รถทัวร์กทม.-เชียงใหม่ ไหม้ทั้งคัน ผดส. 40 คน ผวา หวั่นไม่ถึงบ้าน
- เปิดนาที จนท. ช่วยผู้ประสบภัย! ไฟไหม้โรงแรม กลางดึก ดับสลด 3 ราย
จากการสอบถามพยานในพื้นที่เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นเด็กวัยรุ่นชายอายุประมาณ 14-15 ปี จุดพลุโอ่งหน้าร้าน โดยพลุแตกกระจายไปติดพวงสายรุ้งและต้นคริสต์มาสที่ร้านแขวนไว้ ทำให้ไฟลุกลามเข้าสู่ร้านอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังพบว่าในร้านมีการลักลอบจำหน่ายพลุและดอกไม้เพลิง ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

นายฉัตรชัย เนตรแขม เจ้าหน้าที่ อปพร. อบต.ท่าไม้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ตลาดนัดในขณะเกิดเหตุ เล่าว่า หลังได้ยินเสียงพลุระเบิด ตน และเจ้าหน้าที่คนอื่นได้รีบคว้าถังดับเพลิงเข้าไปช่วย แต่ไม่สามารถดับไฟได้เนื่องจากเปลวไฟพุ่งออกมาจากร้านอย่างรุนแรง

ด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยระบุว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เนื่องจากพบการลักลอบจำหน่ายพลุและดอกไม้เพลิง ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนและเอาผิดตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ ได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการจุดพลุ ดอกไม้เพลิง และการเฉลิมฉลองอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติภัยและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น