โผล่อีก! พ่อของนายแบบชาวจีน “หยาง เจ๋อฉี” มาร้อง ผบ.ตร. ช่วยตามหาลูกชาย หลังมาเที่ยวที่ไทยและหายตัวนานเกือบเดือน กลัวซ้ำรอยเหมือน ซิงซิง
จากกรณีนักที่มีนักแสดง ซิงซิง หรือหวังซิง หายตัวอย่างปริศนา ขณะเดินทางมาทำงานในประเทศไทย โดยทราบอีกทีเจ้าตัวถูกนพตัวพาไปอยู่กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยบริเวรที่หายตัวไปนั้นอยู่ที่เขตชายแดน ไทย-เมียนมาร์ ทางเจ้าหน้าที่ของประเทศไทยสามารถช่วยเหลือ และนำตัวนักแสดง ซิงซิง กลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยนั้น ไม่นานก็ได้มีเหตุเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับนีกแสดงหนุ่มชื่อ หยาง เจ๋อฉี (Yang Zeqi) ที่หายตัวไปอย่างปริศนาอีก 1 ราย นานกว่า 20 วัน
เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 หยาง เจ๋อฉี ได้มีการวิดีโอคอลกับแม่ พร้อมบอกว่าเขาปลอดภัยแล้ว ในวิดีโอ หยาง เจ๋อฉี สวมชุดสีดำ โดยมือของเขามีอาการบาดเจ็บที่มุมดวงตาของเขามองเห็นได้ชัด และดูเหมือนอาการไม่ปกติ จากนั้นโทรศัพท์ถูกปิดอีกครั้ง และขาดการติดต่อ ทางญาติจึงรีบแจ้งความ กับตำรวจจีน และติดต่อกับสถานทูตจีนในประเทศไทยและเมียนมาร์ เพื่อขอความช่วยเหลือ
ล่าสุด วันที่ 16 มกราคม 2568 ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ได้นำ นายหยาง ไห่ เทา บิดาของ นายหยาง เจ๋อ ฉี นายแบบชาวจีน ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เร่งรัดติดตามตัวลูกชายที่หายตัวไปหลังเดินทางมาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย
นายหยาง ไห่ เทา เปิดเผยว่า ลูกชายของเขาเดินทางมายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567 โดยออกจากกรุงปักกิ่งและเดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ อย่างไรก็ตาม การติดต่อครั้งสุดท้ายกับลูกชายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม โดยลูกชายได้วิดีโอคอลผ่านแอปพลิเคชัน WeChat เพื่อพูดคุยกับมารดา ในระหว่างการสนทนา ลูกชายแสดงอาการวิตกกังวลและดูตกใจอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำบริเวณดวงตา ทำให้เกิดความสงสัยว่าอาจถูกทำร้ายร่างกาย

- อัปเดต! คดีซิงซิง เผยครั้งแรก หลังถูกหลอกข้ามแดน จากคนจีนด้วยกันเอง
- หวั่นซ้ำรอย ‘ซิงซิง’ ตามหา ‘หยาง เจ๋อฉี’ นายแบบชาวจีน หายตัวไปหลังบินมาไทย
- นทท.จีน กังวลหนัก! ไม่กล้ามาเที่ยวไทยช่วงตรุษจีน หลังมีข่าว ‘ซิงซิง’
สิ่งผิดปกติที่พ่อสังเกตได้เพิ่มเติมคือ ลูกชายวางมือตลอดเวลาอยู่บนโต๊ะระหว่างการพูดคุย แทนที่จะถือโทรศัพท์เองตามปกติ สันนิษฐานว่าอาจมีบุคคลอื่นถือโทรศัพท์ให้ และในช่วงนั้นลูกชายไม่ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือหรือแสดงอาการผิดปกติใด ๆ ซึ่งพ่อเชื่อว่าอาจถูกควบคุมตัวอยู่
ครอบครัวได้แจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา และได้รับความช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ที่กำลังติดตามคดีนี้ อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า และครอบครัวยังไม่ทราบว่าลูกชายอยู่ในประเทศไทยหรือออกนอกประเทศแล้ว
ข้อมูลล่าสุดที่ครอบครัวได้รับคือ พิกัดโลเคชันที่ลูกชายส่งให้แฟนสาวและเพื่อนในกลุ่ม พบว่าล่าสุดอยู่ในพื้นที่ อำเภอพบพระ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก แต่ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเดินทางข้ามชายแดนไปยังประเทศเมียนมาแล้วหรือไม่ และในโซเชียลมีเดียของลูกชายก็ไม่มีการอัปเดตข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม

นายหยาง ไห่ เทา กล่าวเพิ่มเติมว่า ลูกชายเพิ่งเดินทางมารับงานต่างประเทศครั้งแรก โดยได้รับการติดต่อผ่านโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับงานในวงการบันเทิงไทย ในช่วงแรกครอบครัวไม่ได้กังวล เนื่องจากเคยมาเที่ยวประเทศไทยและพบว่าคนไทยมีอัธยาศัยดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ครอบครัวรู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่ง จึงขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามตัว
ด้านนายรัชพล เชื่อว่าคดีนี้มีความเชื่อมโยงระหว่างบุคคลจากไทย จีน และเมียนมา โดยจากการตรวจสอบพบภาพถ่ายที่มีการบันทึกทะเบียนรถ ซึ่งรถคันดังกล่าวจดทะเบียนในประเทศไทย นายรัชพลเสนอว่า หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและติดตามเจ้าของรถ คดีอาจมีความคืบหน้าและขยายผลได้
ทั้งนี้ นายรัชพลเรียกร้องให้รัฐบาลของทั้งสามประเทศ คือ ไทย จีน และเมียนมา ร่วมมือกันแก้ไขคดีนี้ เนื่องจากเป็นกรณีที่เกี่ยวโยงระหว่างประเทศ หากไม่มีความร่วมมือจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อาจทำให้การดำเนินการยากลำบาก พร้อมฝากถึงนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดการติดตามคดีนี้โดยด่วน ขณะนี้หลักฐานที่มีประกอบด้วยภาพถ่ายทะเบียนรถ และข้อมูลจากลูกชายที่ส่งให้เพื่อนก่อนจะขาดการติดต่อ
สำหรับรถที่เกี่ยวข้องมีจำนวน 2 คัน โดยคันแรกรับตัวจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเปลี่ยนรถอีกคัน แต่ไม่ทราบจุดหมายปลายทาง นอกจากนี้ยังมีภาพอื่น ๆ ที่นายหยาง เจ๋อ ฉี ส่งให้เพื่อนในกลุ่ม ซึ่งยังไม่ทราบว่าคุณพ่อได้ส่งมอบหลักฐานนี้ให้กับเจ้าหน้าที่หรือไม่
หลังจากเกิดคดีสุดสะเทือนขวัญทั้งนักแสดง ซิงซิง และ หยาง เจ๋อฉี (Yang Zeqi) ที่หายตัวหลังจากมาประเทศไทยนั้น ชาวจีนหลายคนก็เกิดกลัวไม่กล้ามาเที่ยวที่ประเทศไทย และแห่ยกเลิกจองที่พักทำให้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยภายหลัง น้องเต้าหู้ อินฟลูเอ็นเซอร์สาวสวย ที่มาเรียนอยู่ที่เป็นเทศไทยหลายปี ได้มีการอัดคลิป TikTok เผยว่าตนอยู่ที่ไทยมานานปลอดภัยดี วอนชาวจีนอย่าหลงเชื่อข่าวผิด ๆ
และทางเฟซบุ๊คเพจ World Forum ข่าวสารต่างประเทศ ได้รายงานว่ามีสื่อของไต้หวันหลายสำนักกำลัง แนะนำโหลดแอปพลิเคชัน ตำรวจท่องเที่ยวไทย เพื่อช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ ในการเดินทางในไทย ช้แอปพลิเคชัน ตำรวจท่องเที่ยวไทย
นอกจากนี้ สื่อยังทดลองการใช้แอป บอกคุณสมบัติดี ๆ อาทิรองรับ 5 ภาษา กดแชร์พื้นที่ได้ ติดต่อตำรวจได้ภายใน5นาที แจ้งข้อมูลรู้องทุกข์ได้ทันที มีล่ามแปลภาษา เตือนสถานที่จุดเสี่ยง โดยมีความเห็นชาวไต้หวันค่อนข้างชื่นชม พึงพอใจ ตัวช่วยแอปตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งบางคนบอกว่า ประเทศไทยมีของดี แต่ทำไมไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน ในวันที่ 15 มกราคม ที่ผ่านมา เพจสถานทูต มาเลเซียในกรุงเทพฯ ยังแชร์แนะนำแอปแก่พลเมืองมาเลเซียด้วย

ซึ่งคุณสมบัติ แอปพลิเคชัน มีดังนี้ แอปพลิเคชันตำรวจท่องเที่ยว เพื่อนคู่ใจนักเดินทาง ความปลอดภัยสูงสุด! ตะลุยทั่วไทย ไร้กังวล ด้วยแอปพลิเคชันที่คุณต้องมีติดเครื่อง
- แจ้งเหตุฉุกเฉินได้ทุกที่ ทุกเวลา 24/7
- ล่ามออนไลน์พร้อมช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 5 ภาษา
- แผนที่จุดเสี่ยงและสถานีตำรวจใกล้ตัว
- การแปลภาษาแบบทันใจ
- ติดต่อเจ้าหน้าที่เร็วภายใน 5 นาที

คุณสมบัติพิเศษ
- GPS ติดตามตำแหน่งฉุกเฉิน
- แชทสด กับเจ้าหน้าที่
- บันทึกเหตุการณ์อย่างปลอดภัย
- คำแนะนำการเดินทางฉุกเฉิน
โดยแอปพลิเคชันนี้ดาวน์โหลดฟรี ใส่ใจทุกการเดินทาง ปลอดภัยทุกย่างก้าว
