สยอง! เอฟเฟกต์วัคซีนโควิด mRNA ‘หมอธีระวัฒน์’ เผยข้อมูลการักษาคนตาย-มีชีวิต พบ แท่งย้วยสีขาว คล้ายหนวดปลาหมึก ในตัวผู้ป่วย
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงานเรื่อง เอฟเฟกต์วัคซีนโควิด mRNA อย่างที่ใครหลายคนรู้กันดีว่า ประเทศไทยเราเผชิญกับเชื้อ ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด มาหลายปีแล้ว ซึ่งทางรัฐบาลก็ได้นำ วัคซีนโควิด ต่างๆ มาฉีดเสริมภูมิคุ้มกันตามมาตรฐานการป้องกันโรค แน่นอนว่า วัคซีนโควิด mRNA เป็นวัคซีนอีกชนิดที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมีนักวิชาการทางการแพทย์หลายท่านออกมาแสดงความคิดเห็นในด้านบวกเป็นส่วนใหญ่
ล่าสุด ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยข้อมูลการรักษาผู้ป่วยที่ได้รับ “วัคซีนโควิด mRNA” ทั้งในส่วนของผู้ที่เสียชีวิตแล้ว และยังทำการรักษาอยู่ โดย หมอธีระวัฒน์ กล่าวว่า คนที่ยังไม่ตาย หรือตายแล้ว จากวัคซีนโควิด mRNA พบ : แท่งย้วยสีขาว (white clot) คล้ายหนวดปลาหมึก ไม่เคยพบมาก่อน
- อัยการ ยืนยัน ทักษิณป่วยขั้นวิกฤต เผย ขนาดนั่งคุยกันยังไม่มีเสียง
- ไวรัลซึ้ง! แบกรูปเพื่อนมางานปัจฉิม เสมือนเรียนจนจบไปด้วยกัน
- หดหู่! แม่ตีลูกจับขังกรงหมา ยัน ไม่ได้ทารุณเด็ก แค่ตีประชดสามี
โดย หมอธีระวัฒน์ ได้นำเสนอพร้อมรูปภาพขั้นตอนการรักษา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชุด โดย (ชุดแรก) เป็นรูปของเหลวที่ดูดจากช่องท้อง บริเวณใกล้ตับอ่อน คนป่วย ที่ยังมีชีวิต มีลักษณะเป็นวุ้นสีขาว ส่วน (ภาพชุดที่ 2) หมอธีระวัฒน์ กล่าวว่า รูปจากคนป่วยที่กำลังจะเสียชีวิต รักษาด้วยการผ่าตัดไม่ทัน และตาย รวมทั้งรายอื่นที่เสียชีวิตไปแล้ว และลากสิ่งที่อยู่ในหลอดเลือดแดง carotid ที่ไปเลี้ยงสมอง ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้พบมาก่อนที่จะมีวัคซีนโควิดและไม่ได้เจอในคนที่ตายจากโควิด หรือโรคอื่น และยังมีรายงานก่อนหน้านี้ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางพยาธิวิทยาในเยอรมัน ที่มีชื่อเสียง ที่ทำการผ่าศพชันสูตร พบลักษณะลักษณะเดียวกัน กับในที่เห็นในสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ หมอธีระวัฒน์ กล่าวต่อในคอมเมนต์อีกว่า “ทุกท่านที่ถามว่า หมอเองก็เชียร์ วัคซีน” คำตอบคือ เป็นเช่นนั้นครับ เพราะเป็นตามหลักฐานซึ่งเราคิดว่าฉีดแล้วจะช่วยชีวิตป้องกันการติดเชื้อ และการแพร่เชื้อ แต่ความสำคัญอยู่ที่เมื่อตระหนักว่าเกิดผลกระทบแล้วต้องรีบแจ้งให้ประชาชนทราบ และหมอถูกเซ็นเซอร์มาตลอด ในขณะเดียวกันสิ่งที่ช่วยได้ก็คือพยายามให้ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง ซึ่งใช้กลไกของการกระตุ้นภูมิคุ้มกันคนละระบบ และควรที่จะลดผลข้างเคียงลง
