สลด! คุณยายประไพพิศ อายุ 74 ปี ผู้ป่วยอัลไซเมอร์ เดินเข้าผิดบ้าน เคราะห์ร้าย ถูกสุนัขพันธุ์ไทยชื่อ “เจ้าเพิ่ม” ขย้ำลำคอเสียชีวิตคาที่
เวลา 20.00 น. เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2567 ร.ต.อ.สรพงศ์ โพธิ์ขาว รับแจ้งเหตุสุนัขกัดคนชราเสียชีวิตภายในบ้านบริเวณ ถนนเลียบคลองปทุม เขตทวีวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร จึงไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.ต.มติสันต์ เสียงสนั่น สวป.สน.ศาลาแดง แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และอาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว สูง 2 ชั้น บริเวณพื้นทางเข้าบ้านด้านใน พบศพนางประไพพิศ อายุ 74 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลเป็นรูคล้ายถูกของมีคมลึกใต้กกหูฝั่งซ้ายใกล้ลำคอ นอนเสียชีวิตอยู่บนพื้นภายในบ้าน

เบื้องต้นทราบว่าผู้ตาย มีอาการป่วยอัลไซเมอร์ หลง ๆ ลืม ๆ ปัจจุบันรักษาตัวอยู่ รพ.ราชพิพัฒน์ และพักอาศัยอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ โดยผู้ตายอยู่กับลูกสะใภ้ และครอบครัว ขณะเกิดเหตุประมาณ 1 ทุ่มกว่า ผู้ตายได้เปิดประตูเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งมีสุนัขพันธุ์ไทย อายุ 2 ปี สีน้ำตาล อยู่ภายในบ้าน จากนั้นเจ้าของบ้านได้ยินเสียงหมาเห่าจึงนึกว่าโจรเข้าบ้าน จนกระทั่งมาเห็นสุนัขของตน กำลังค่อมบนร่างกัดขย้ำ นางประไพพิศ จนแน่นิ่งไป เจ้าของบ้านพยายามที่จะช่วยเหลือผู้ตาย แต่เนื่องจากนางประไพพิศถูกกัดที่ลำคอ บาดแผลลึก ส่งผลให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ก่อนจะรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ
ทางด้านอาสาสมัครที่เข้าให้การช่วยเหลือ นายกสิน อิ้วสวัสดิ์ อาสาสมัครป่อเต็กตึ๊ง ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองได้รับแจ้งว่า มีหญิงชราถูกสุนัขกัดได้รับบาดเจ็บ จึงมาตรวจสอบ พร้อมด้วยรถกู้ชีพโรงพยาบาลราษฎร์พิพัฒน์ พอมาถึงที่เกิดเหตุ พบว่าผู้ตายนั่นนอนเสียชีวิตไปแล้วในบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านของผู้ตาย เท่าที่ทราบ ยายประไพพิศโดนสุนัขของเพื่อนบ้านกัด เป็นหมาพันธุ์ไทย โดยผู้เสียชีวิต มีโรค อัลไซเมอร์ มีอาการ หลงๆ ลืมๆ บ้านตัวเองจนเปิดเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้านเเละถูกสุนัขกัด
ทางด้านพนักงานสอบสวน จะทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดในบ้านหลังที่เกิดเหตุ เพื่อดูว่าขณะเกิดเหตุที่บ้านหลังดังกล่าวได้มีการเปิดประตูทิ้งไว้หรือไม่ และจะเชิญผู้เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาว่าเป็นความประมาทของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เเละเจ้าหน้าที่จึงมอบร่างให้อาสานำส่งสถาบันภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรสาเหตุเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนประสานให้ญาติรับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
