เมียหลวงยังมีสิทธิ์! ทนายเจมส์ ยัน ดับกระแส ไม่ได้ยกเลิก กฎหมายฟ้องชู้ ปรับแก้ เพิ่มความเท่าเทียม

จากกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 วรรค 2 ที่บัญญัติว่า “สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่า ตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้” ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสองวรรค สาม และกำหนดบังคับให้คำวินิจฉัยมีผลเมื่อพ้น 360 วัน นับตั้งแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยนั้น
- อ. เจษฎา ชี้ เคสชายหญิงดับคารถ เพราะได้รับก๊าซพิษ คาร์บอนมอนอกไซด์
- วุ่นแน่! ลิงลพบุรี แหกกรง ศูนย์อนุบาลสัตว์โพธิ์เก้าต้น ป่วนตำรวจทั้งสน.
- คอนเทนต์ใหม่!? นุ้งตี้ ดาวตต. วีนตำรวจ ไม่พอใจถูกเรียกให้ตรวจฉี่

ล่าสุด ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ได้มีการโพสต์ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งก่อนที่เลขาผู้ตรวจการฯ จะมาชี้แจง จนหลายคนเกิดความเข้าใจผิดโดยระบุข้อความว่า “ดับฝันเมียน้อย ใจเย็นก่อนมิตรรักแฟนเพจทั้งหลาย มีกระแสข่าวออกมาว่า การแก้กฎหมายฟ้องชู้นั้น จะทำให้เกิดความเท่าเทียม สำหรับเมียหลวงมากขึ้น ไม่ใช่ยกเลิกกฎหมายฟ้องชู้นะครับ”
และจากการร่าง พ.ร.บ. สมรสเท่าเทียม มาตรา 49 ที่เพิ่งผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาวันนี้ ได้ระบุยกเลิก ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1523 ทั้งมาตราแล้ว โดยระบุ ให้ใช้ความต่อไปนี้แทน มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516 (1) คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น
“คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งไปในทำนองชู้ หรือจากผู้ซึ่งแสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งในทำนองชู้ก็ได้” ซึ่งเป็นการแก้ไขคำจาก ผู้ซึ่งล่วงเกินสามี-ภรรยา (ชู้) เป็นผู้ซึ่งล่วงเกินคู่สมรส เพื่อให้ครอบคลุมทุกเพศตามหลักการของกฎหมายสมรสเท่าเทียม
สำหรับกระบวนการหลังจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการแก้ไขข้อกฎหมายตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อครบ 360 วัน จะส่งผลให้สามารถฟ้องชู้เพศเดียวกันของสามีได้ ตามคำวินิจฉัยของศาล