อ่านแล้วอึ้ง! เพื่อนสมัยเรียนแฉทอย เผย มีความโรคจิตตั้งแต่ประถม แสดงพฤติกรรมความรุนแรง จนภาพที่เห็นติดตาจนถึงทุกวันนี้
วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 มีรายงานเกี่ยวกับ คดีฆ่าน้องนุ่น เมื่อ เพื่อนสมัยเรียนแฉทอย ถึงพฤติกรรมความรุนแรงที่เคยมีมา โดยเรื่องราวดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก คดีคนหาย สู่คดีฆาตกรรม เมื่อ น้องนุ่น หญิงสาววัย 27 ปี หายตัวปริศนา ก่อน ทอย หรือ นายศิริชัย (สงวนนามสกุล) ผู้เป็นสามีเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่า ตนมีปากเสียงกับภรรยา และภรรยาได้ลงจากรถจากรถไป พร้อมหายตัวติดต่อไม่ได้ตั้งแต่วันที่ (18 ก.พ. 67) จนกระทั้งความจริงถูกเปิดเผยว่า ทอยคือคนที่ลงมือสังหารน้องนุ่น

ซึ่ง หลังจากความจริงปรากฎ ข่าวถูกเผยแพร่ออกไป จนกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่สังคมจับตามอง จู่ๆ มีชาวเน็ตจำนวนมากเริ่มแชร์ข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวของบุคคลหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่า เป็นเพื่อนทอยสมัยที่เรียนตอนประถมด้วยกัน โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้เล่าเรื่องราวของ พฤติกรรมทอย ที่ใช้ความรุนแรงตั้งแต่เด็ก จนทำให้การแสดงออกของทอยนั้น เป็นภาพติดตาจนมาถึงทุกวันนี้
- เปิด แชททอย คดีน้องนุ่น ส่งหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ก่อนรับสารภาพ
- ขนลุก! นาทีนักข่าวพบศพ ตามพิกัดนุ่นไปไม่เจอ แต่ไปเจอตอนกำลังจะกลับ
- คลิปครอบครัวน้องนุ่น เที่ยวกันครั้งสุดท้าย ก่อนเกิดคดีฆาตกรรม
โดย ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้ เล่าระบุข้อความว่า “โรคจิต ตั้งแต่สมัยเรียนประถมตอนเรียนด้วนกัน ไม่คิดเลยว่าจะทำจริงตอนโต กรีดหน้าตัวเองตอนนั้น ยังติดตากุยุเลย มีแต่เลือด” ต่อมามีคอมเมนต์ว่า “โตมา มึงยังโรคจิตเหมือนเดิม ของเชิญมึงรับกรรม ศิริชัย (สงวนนามสกุล) เสียดายและเสียใจ ที่กุร่วมชั้น ร่วมโรงเรียนกับคนอย่างมึง” จากนั้นมีคนเข้าไปถามว่า “ทอยรับสารภาพแล้วหรือ?” ซึ่งก็ได้มีคอมเนต์ตอบว่า “ออกข่าวหมดแล้วเพื่อน รับแล้ว มีคลิปมัดตัว เลวมาก” อย่างไรก็ตามข้อความดังกล่าวต้องรอการพิสูจก่อนเพื่อความเป็นธรรม

ทั้งนี้ ในส่วนความคืบหน้าของคดี วันที่ (21 ก.พ. 67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด เตรียมคุมตัว นายศิริชัย หรือ ทอย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุดด้วยกัน คือ 1.บ้านที่ก่อเหตุ 2.ปั๊มน้ำมันที่ไปซื้อน้ำมัน 1,400 บาท เพื่อนำไปใช้เผาอำพรางร่างของนุ่น และ 3.บริเวณถนนเรียบคลองประปา ซึ่งเป็นจุดที่ทำร้ายร่างกาย ส่วนจุดที่มีการเผาอำพราง ที่จังหวัดปราจีนบุรี ยังไม่มีรายงานว่าจะนำตัวทอยไปชี้จุดด้วยหรือไม่ หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะมารายงานให้ทราบอีกครั้ง