เกษตรกรเกาหลีใต้ โกนหัวประท้วง หลังบังคับใช้กฎหมาย ห้ามกิน-ขายหมา

รู้หรือไม่ว่า การกินเนื้อสุนัข ถือเป็นที่นิยมมานานนับร้อย ๆ ปี ของชาวเกาหลีใต้ เพราะ เชื่อว่าจะทำให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นช่วงฤดูร้อนได้ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงกว่า 2 ทศวรรษหลัง เริ่มมีเสียงวิจารณ์ถึงกรรมวิธีที่โหดร้ายในฆ่าสุนัข และมีการรณรงค์ให้เลิกกินเนื้อสุนัขจากกลุ่มองค์กรคุ้มครองสัตว์อย่างหนัก

ต่อมา เกาหลีใต้ก็ได้มีการ เริ่มบังคับใช้กฏหมายห้ามรับประทานเนื้อสุนัข ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2570 ช่วงเวลาที่เหลือจึงต้องหาทางออกให้กับทั้งเกษตรกรผู้เลี้ยงสุนัข, ร้านอาหารขายเนื้อสุนัข และหาที่อยู่ใหม่ให้กับสุนัขในฟาร์มต่าง ๆ ทั่วประเทศ เกือบ 5 แสนตัว

โดย รัฐบาลวางแผนที่จะใช้เงินประมาณ 1 แสนล้านวอน (ราว 2,500,000,000 บาท) เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้เพาะพันธุ์สุนัข เกษตรกร และร้านอาหาร ปิดกิจการของตน

ล่าสุดเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) ผู้ประท้วงชาวเกาหลีใต้หลายร้อยคน ได้รวมตัวกันหน้าสำนักงานประธานาธิบดีในกรุงโซล ต่างพากันโกนหัวประท้วง เพื่อเรียกร้องให้มีการชดเชยที่เหมาะสมยิ่งขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้เตรียมออกกฎหมายห้ามกิน-ขายเนื้อสุนัข ทำให้ฟาร์มสุนัขหลายแห่งต้องปิดตัวลง

ผู้ประท้วงบางส่วนจากกลุ่มอุตสาหกรรมเนื้อสุนัข โกนหัวเพื่อประท้วงการห้ามกินเนื้อสุนัข ซึ่งเป็นการยุติประเพณีเก่าแก่ ที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้งนี้

ลี กุยแจ หัวหน้าสมาคมสุนัขกินได้ ได้เข้าร่วมการโกนหัวครั้งนี้ และกล่าวว่าเขา “รู้สึกเสียใจอย่างมาก และสงสัยว่า เราจะยังคงหาเลี้ยงชีพต่อไปในอนาคตได้อย่างไร” อย่างไรก็ตาม กลุ่มอุตสาหกรรมเนื้อสุนัข กล่าวว่า ความช่วยเหลือที่รัฐบาลมอบให้นั้นไม่เพียงพอ และจะต่อสู้เพื่อให้ได้รับการชดเชยที่ดีขึ้น