ทนายตั้ม โผล่ขึ้นศาลนครพนม หลังโดน สหายแสง-ลูกสาว ฟ้องเรียกค่าเสียหาย 30 ล้าน ในข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาท
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ต.ค.2567 ที่ศาลจังหวัดนครพนม ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิ ทีมงานทนายประชาชน เดินทางมาที่ ศาล จ.นครพนม โดยศาลนัดสืบพยานจำเลย ระหว่าง นายธนบวร สิริกรกุล กับพวกรวม 2 คน กับ น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ กับพวกรวม 2 คน ในคดีหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังจาก นายศุภชัย โพธิ์สุ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม และ รศ.ดร.ธนบวร สิริคณากรกุล อดีตเลขาฯนายศุภชัย เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายษิทรา และ น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ ในคดีดังกล่าว เรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท
คดีนี้ สืบเนื่องจากที่นายศุภชัย พร้อมพวก เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายษิทรา ทนายความชื่อดัง และ น.ส.ช่อฉัตร นักธุรกิจน้ำยางพารา ในข้อหาความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา โดยคำฟ้องระบุพฤติกรรมสรุปว่า จำเลยทั้ง 2 แถลงข่าวที่มีเนื้อหาเป็นเท็จและสร้างความเสียหายให้แก่โจทย์ทั้ง 3 ซึ่งมีผลทำให้โจทย์ทั้ง 3 เสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งยังทำให้เกิดความเสียหายในเรื่องอื่นๆอีกหลายเรื่อง
ในคำขอท้ายฟ้อง โจทย์ทั้ง 3 ได้เรียกร้องค่าเสียหาย 30 ล้านบาท และขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 โดยในระหว่างไต่สวนมูลฟ้องจำเลยได้ขอเจรจาไกล่เกลี่ย แต่โจทย์ทั้ง 3 มีความต้องการที่จะปกป้องศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของตนเป็นสำคัญ ซึ่งศาลประทับรับฟ้อง และนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 10 มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา
รศ.ธนบวร โจทย์ที่ 1 กล่าวว่า ยังมีอีกหลายคดีที่ตนเป็นผู้เสียหายและได้ดำเนินคดีกับนายษิทรา และ น.ส.ช่อฉัตร โดยตนต้องการให้ทั้งคู่ยอมรับในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นกติกาของสังคมที่ทุกคนต้องยอมรับ ไม่มีใครเป็นอภิสิทธิ์ชนที่อยู่เหนือกฎหมาย
ทั้งนี้ ทนายตั้ม เดินทางมาที่ศาลด้วยรถกระบะ 4 ประตู โดยหลบขึ้นประตูข้างและขึ้นทางประตูด้านหลังศาล ทันทีที่ ทนายตั้ม พบผู้สื่อข่าว กล่าวสั้นๆว่า “พวกคุณไปรอผมที่บันไดทางขึ้นหน้าศาล ผมเสร็จเที่ยง”