เท็กซัสพบ เด็กเสียชีวิตจากโรคหัดเป็นรายแรก หลังลัทธิต่อต้านวัคซีนระบาดในสหรัฐฯ หวั่น สร้างผลกระทบให้กับเด็กในวงกว้าง
กรมบริการสุขภาพของรัฐเท็กซัส รายงานผู้เสียชีวิตจากโรคหัดรายแรก จากการระบาดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาค South Plains และ Panhandle เด็กวัยเรียนที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเมืองลับบ็อคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และตรวจพบว่าเป็นโรคหัด
โดยเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ มีการยืนยันผู้ป่วยโรคหัด 124 ราย จากการระบาดตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม โดยส่วนใหญ่เป็นเด็ก มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 18 รายตลอดช่วงการระบาด ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อหัด 25124 คน ผู้ติดเชื้อแทบทั้งหมดเป็นเด็กเล็ก ในกลุ่มนี้มี 8 คนที่อาการหนักจนต้องแอดมิท
ทั้งนี้ หัดเป็นโรคที่สามารถแพร่ระบาดได้ง่าย และแพร่ไว แพร่เป็นวงกว้าง ในบางเคสที่เกิดผลข้างเคียงรุนเรียง อาจกลายเป็นปอดบวม หรือมีอาการทางสมอง จนเสียชีวิตได้ การป้องกันโรคหัดที่ดีที่สุด คือการฉีดวัคซีนซึ่งสามารถป้องกันการติดเชื้อได้ถึง 97% และป้องกันการป่วยหนักได้

อย่างไรก็ตาม แต่ที่อเมริกามีปัญหาโรคหัดแพร่ระบาด ท่ามกลางเทคโนโลยีและการแพทย์สมัยใหม่ที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ความไม่ไว้ใจในวัคซีนก็กำลังเพิ่มสูงขึ้นตามอีกด้วย พ่อแม่จำนวนหนึ่งปฏิเสธที่จะให้ลูกฉีดวัคซีนจากความเชื่อทางศาสนา จากความเชื่อในวิทยาศาสตร์เทียม ตลอดจนการได้รับข้อมูลผิด ๆ จนกลายเป็นลัทธิต้านวัคซีนการไม่รับวัคซีนคือการนำชีวิตเข้าไปเสี่ยงกับเชื้อโรคมากมาย จนมีเด็กเสียชีวิตจากโรคหัดมากขึ้น และการลดการเสียชีวิตคือการฉีดวัคซีนอย่างถูกต้อง