คณะสงฆ์ และเจ้าอาวาส จังหวัดมหาสารคาม เรียกสอบ รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้นจริง สั่งลาสิขาทันที เหตุ สร้างความเสื่อมเสียแก่วัด
จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “ตลาดล่างอัปเกรด” ได้ออกมาแฉเรื่องสุดฉาวของรองเจ้าอาวาสวัดดังแห่งหนึ่ง ที่แอบนำยอดกฐินรวมหลักล้านของทางวัด แอบไปเปย์สีกา ทั้งซื้อรถให้ และจ่ายเลี้ยงดูเป็นอย่างดี รวมถึงหาเงินหลังสร้างอนาคตชีวิตคู่ด้วยกัน แต่เรื่องต้องโป๊ะแตกเมื่อสีกาโพสต์รูปลงใน ไอจี สตอรี่ แบบโค้ดเฟรน แต่ดันมีคนในโค้ดเฟรนแคป และลงประจาน จนเรื่องแดงขึ้นมานั้น
ล่าสุดผู้ใช้เฟซบุ๊กเพจ คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี ได้มีการโพสต์ข้อความระบุว่า “ไปไม่ถึงฝันแต่ฉันก็ไม่โทษใคร!! มันจบแล้วครับนายบ้าน 100 ล้าน!! สึกแล้วเจ้าค่ะ End Game” พร้อมโพสต์รูปเอกสารราชการแบบด่วนที่สุดของ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคราม ที่ได้มีการแจ้งว่าทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมหาสารคาม ได้ลงพื้นที่และประสานคณะสงฆ์ตรวจสอบ

ทราบข้อเท็จจริงมีรายละเอียด ดังนี้ 1. พระสงฆ์ที่ปรากฏภาพตามข่าว คือ พระปลัดทินพล (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี พรรษา 9 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ตำบลเกิ้ง อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
2. วันที่ 4 ตุลาคม 2567 เวลา 23.30 น.โดยประมาณ คณะสงฆ์ และเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งได้เรียก พระปลัดทินพล (สงวนนามสกุล) มาพบเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง

โดยพระปลัดทินพลฯ ได้รับทราบข้อกล่าวหาตามข่าว และเห็นว่าเพื่อไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์จึงได้ขอลาสิกขา โดยมีพระครูปลัดอาจริยวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว เป็นผู้ให้การลาสิกขา และมีเจ้าคณะผู้ปกครองรับทราบและเป็นพยานในการลาสิกขา
หลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปนั้นก็ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกับพฤติกรรมของรองเจ้าอาวาสรายนี้เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น “มีครบ บ้าน รถ เงินเก็บ เรื่องแดงแล้วสึกก็ได้ ขอบคุณสถาบันการบินที่สนับสนุน”, “สึกแล้วไง ไม่มีบทลงโทษอะไรเลยหรอกับสิ่งที่ทำผิดขณะครองสมณเพศ”, “อาชีพแต่งแครอท เดี๋ยวสมัครทำงานที่ใหม่ได้”, “ควรยึดทรัพที่หาได้ตอนบวชพวกแม่งให้หมด บวชไปเอาตังละศึกก็ออกไปพร้อมทรัพสินมากมาย”, “คราวนี้น้องฟ..จะเอาอะไรมาอวดเพื่อนๆล่ะคะ”, “หาที่ชุบตัวใหม่” และ “พวกที่ต้องอาบัติปาราชิก จะใช้เล่ห์เหลี่ยมชิงสึกก่อนการสอบสวนอธิกรณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงอาบัติปาราชิกและยังสามารถฟ้องคู่กรณีในข้อหาหมิ่นประมาทได้อีกด้วย ช่องโหว่ตรงนี้ศาลของนักบวชและศาลของโยมต้องร่วมมือกันอุด” เป็นต้น