แถเก่งมาก! นักข่าวแฉ โน๊ต มือฆ่า 3 พ่อแม่ลูก ทำเนียนตีสนิทนักข่าว ไลน์มาให้ข้อมูลหวังเบี่ยงประเด็น ซ้ำยังไปจุดทิ้งศพดูจนท.ทำงานด้วย
จากกรณีจากตายปริศนาของ 3 พ่อแม่ลูกที่หายตัวไป โดนสภาพศพพบถูกยิงที่ศีรษะทั้ง 3 ศพนั้น ล่าสุด ที่ สภ.คลองขลุง ตำรวจได้เชิญตัว “นายศิวกร” ซึ่งเป็นเพื่อนของ “บอล” น้องชายของผู้ตาย มาสอบปากคำกว่า 6 ชั่วโมง เนื่องจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปืนที่ใช้ในคดี โดยนายศิวกรอ้างว่าได้นำปืนไปจำนำกับผู้ตาย แต่ไม่ได้รับเงินตามที่ตกลง
และล่าสุด เวลา 19.20 น. ของวันที่ 14 ก.พ. มีรายงานว่า นายศิวกรได้ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรมทั้งสามราย คำสารภาพของนายศิวกร อ้างว่า ไม่พอใจที่นายวงศกร ผู้ตาย บอกว่าจะให้ยืมเงิน 1 แสนบาท เพื่อไปลงทุนทำธุรกิจทางการเกษตร แต่เมื่อลงทุนไปแล้ว ผู้ตายทำเฉยไม่ให้เงิน วันเกิดเหตุ มีการทวงถามเงินอีก แล้วเกิดทะเลาะวิวาท ก่อนจะคว้าปืนของตัวเองที่จำนำไว้กับผู้ตายและอยู่ในรถผู้ตาย เอามายิงนายวงศกร เสียชีวิตเป็นคนแรก จากนั้นยิงภรรยาและลูกชาย เพื่อฆ่าปิดปาก เพราะครอบครัวผู้ตายรู้จักตนเป็นอย่างดี
หลังจากยิงทั้ง 3 คนแล้ว ก็โทรไปหา ‘นายเข้’ ให้มาช่วยยกศพขึ้นรถ แล้วพากันออกไปจากจุดเกิดเหตุ ทั้งนี้ นายศิวกรอ้างว่า ทั้งหมดเป็นเหตุซึ่งหน้า ไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนายศิวกร จะรู้จักกับครอบครัวผู้ตายเป็นอย่างดี เพราะเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายผู้ตายแล้ว ช่วงที่มีข่าวพบศพผู้ตาย นายศิวกร ยังแชร์ข่าวและแชร์คลิปกล้องวงจรปิดภาพสุดท้ายของครอบครัวผู้ตาย ทำราวกับว่า ตนเองเป็นห่วงเป็นใยครอบครัวผู้ตาย
นอกจากนี้ ช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง (14 ก.พ.68) นายศิวกร ส่งไลน์มาหาผู้สื่อข่าว ทำทีเป็นมาให้ข้อมูลเบาะแส โดยพยายามชี้นำว่า นายบอล หรือนายโป๊งเหน่ง น้องชายของผู้ตาย เป็นคนนำสร้อยทองของผู้ตายไปจำนำ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเปิดเผยข้อมูลการสอบสวนของตำรวจ นายศิวกร ก็เลยพูดบ่ายเบียงไปว่า หากมีอะไรจะรีบมาแจ้งผู้สื่อข่าวเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ช่วง 11.00 น. ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังติดตามทำข่าวในจุดเกิดเหตุ นายศิวกร เดินเข้ามาคุยกับผู้สื่อข่าว ต่อว่าฆาตกรว่า “โหดเหี้ยม ทำได้อย่างไร” และพยายามเดินวนเวียนอยู่ในจุดเกิดเหตุ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปค้นหาทรัพย์สินภายในรถ เหยื่อ ฆตก. 3 ศพ พ่อ เเม่ ลูก เหลือแต่่ถุงทองคำแท่ง เเละ ตั๋วจำนำทอง สร้อยข้อมือ 5 บาท เส้นใหญ่ของภรรยา พบจำนำไว้ 1.5 แสนบาท การสอบปากคำเจ้าของร้านทองในเมือง ให้การกับตำรวจว่า นายศิวกร (โน้ต) นำทองมาขาย มูลค่าประมาณ 100,000 บาท เจ้าของร้านทองนำทองของกลางที่นายศิวกรไปขายที่ร้านค้านำมาคืนตำรวจ วันนี้ (15 กพ.)
ขณะที่ชาวบ้านที่มาร่วมงานศพ ต่างบอกว่า ครอบครัวนายวงศกร เป็นคนดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น หนึ่งในนั้นคือ นายมนตรี อายุ 69 ปี ที่เอาที่ดินไปจำนองแล้วไม่มีเงินไถ่คืน นายวงศกร ก็ช่วยเหลือ ด้วยการมาซื้อที่ดินของตนในราคา 4 แสนบาท โดยจ่ายให้น้องสาวของตนแล้ว 2 แสนบาท ส่วนอีก 2 แสนบาทผ่อนจ่ายให้ตนเดือนละ 3 พันบาท เพราะอยากให้ตนมีเงินเดือนไว้ใช้ เพราะตนไม่ได้ทำงาน แต่หลังจากผ่อนชำระได้ 5 หมื่นบาท นายวงศกร มาขอพักชำระหนี้ เพราะจะไปลงทุนทำเครื่องเสียงให้เช่า ตนก็ไม่ว่าอะไร เพราะรู้จักกันดี กระทั่งนายวงศกรหายตัวไปทั้งครอบครัว และมาทราบว่าเสียชีวิต ตนก็ตกใจมาก ซึ่งที่ดินของตนยังไม่ได้โอนเป็นชื่อของนายวงศกร หากพ่อของนายวงศกร จะรับไปจัดการต่อก็ได้ แต่หากไม่เอาที่ดินไว้ ตนก็จะทยอยชดใช้เงินคืนให้