สลดใจวันแม่! หนุ่มไรเดอร์ กลับไม่ถึงบ้าน ขี่รถเสียหลัก แม่ร่ำไห้กอดศพลูก

ครอบครัวเข่าทรุด! แม่ร่ำไห้หนัก นั่งกอดศพลูก หนุ่มไรเดอร์ กลับไม่ถึงบ้าน ขี่จักรยานยนต์ เสียหลักพุ่งชนรัว ดับสลดในวันแม่

วันที่ 12 สิงหาคม 2567 เวลา 02.26 น. ร้อยตำรวจโท ภีมพล เชาว์ไวย์ รอง สว.สอบสวน สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุทรุรถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาประตูรั้วโรงเรียน ภายในซอยประชาอุทิศ 76 และภายในที่เกิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส 1 ราย เป็นชาย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

บริเวณที่เกิดเหตุเกิดหน้าประตูทางเข้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านซอยประชาอุทิศ 76 ถนนประชาอุทิศ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานครฯ พบร่างผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย สวมใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีน้ำตาล นอนหงายหน้าจมกองเลือดตรงบริเวณเสาประตูรั้วของโรงเรียนดังกล่าว ต่อมาทราบชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บคือ นาย ธนบดินทร์ หรือ นายคิว อายุ 22 ปี เป็นไรเดอร์ส่งอาหารของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง

ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 i สีแดงคาดดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานครฯ ล้มตะแคงคว่ำอยู่กับพื้นถนน และที่บริเวณเสาประตูรั้วของโรงเรียนมีล่องลอยจากการถูกชนอย่างเห็นได้ชัดเจนและยังมีเสาไม้ไผ่ที่ใช้สำหรับค้ำยันสายไฟฟ้าบริเวณหน้าประตูทางเข้ามีล่องลอยจากการถูกรถชนจนหักเอนเกือบโค่นอีก 1 ต้น

จากการตรวจสอบร่างกายพบบาดแผลเปิดขนาดใหญ่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก ที่เบ้าตาข้างขวามีแผลบาดเจาะลึก ขาข้างขวาเหนือหัวเข่าหักผิดรูป และมีบาดแผลถลอกตามบิเวณร่างกายหลายแห่ง สัญญาณชีพอ่อน อาสาสมัครจึงให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการทำ CPR ภายในที่เกิดเหตุทันที พร้อมประสานเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินในระบบเอราวัณทันที

ในเวลาต่อมา เบื้องต้นทางแพทย์ฉุกเฉินได้จัดเตรียมอุปกรณ์ให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างเร่งด่วนและสุดกำลังความสามารถแล้ว แต่ไม่สามารถช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บได้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราชให้มาตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตภายในที่เกิดเหตุตามขั้นตอน

จากการสอบถาม นายเอ็ม อายุ 21 ปี เป็นเพื่อนรุ่นน้องแถวบ้านกล่าวว่า เขาไปดื่มมานิดหน่อย หลังจากนั้นมีการแวะกินข้าว ตอนจะกลับก็ขี่รถตามกันมาพอขึ้นสะพานภายในซอยประชาอุทิศ 76 ก็มีรถยนต์ขับสวนมา ก่อนจะเห็นว่านายคิวนอนแน่นิ่งไปแล้ว ตนจึงจับชีพจรดูเห็นว่ายังเต้น เลยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนช่วยตามรถกู้ภัยให้ แล้วกู้ภัยมาถึงเขาก็พยายามช่วยแล้วแต่ไม่ทัน

จากการสอบถาม นางสาวกนกพร อายุ 42 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูกล่าวว่า ตนมาถึงก็พบว่าผู้เสียชีวิตนั้นมีสัญญาณชีพที่อ่อนมากแล้วแทบจะหาไม่เจอเลยด้วยซ้ำ จึงรีบปฐมพยาบาลด้วยการทำ CPR ในตอนที่มาถึง ไม่พบหมวกกันน็อคตกอยู่ในที่เกิดเหตุจึงคาดว่าผู้ตายไม่ได้สวมใส่หมวกกันน๊อคอย่างแน่นอน ตอนที่มาถึงก็เห็นว่าเขาอยู่ในสภาพที่นอนตะแคงมีเลือดไหลออกบริเวณศรีษะและใบหน้าเยอะมาก ต้นขาข้างขวาหักผิดรูป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์นิติเวช มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช แล้วจะมอบให้ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป