ตร.ยัน! แจ้งข้อหา ‘ขับรถในขณะเมาสุรา’ เสี่ยเบนท์ลีย์ หลังฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ จนเกิดกระแสดราม่าในโลกออนไลน์
จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ม.ค. 66 ได้เกิดเหตุการณ์รถเบนท์ลีย์ชนปาเจโร่บนทางด่วนเฉลิมนครสุข สวัสดิ์ – ดินแดง ส่งผลให้รถปาเจโร่พลิกคว่ำ ก่อนรถดับเพลิงอปพร. ที่ขับมาเลนขวาชนซ้ำ จนทำให้มีผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บ 8 คน ทราบชื่อคนขับเบนท์ลีย์ภายหลังคือ นายสุทัศน์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจ
ทั้งนี้ยังมีภาพถ่ายในเหตุการณ์ซึ่งตรวจพบว่า ภายในรถเบนท์ลีย์ พบขวดไวท์ยี่ห้อหนึ่ง โดยทางเจ้าของรถปฎิเสธที่จะเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ เพราะมีอาการเจ็บหน้าอก จึงถูกพาไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ
อย่างไรก็ตามหลังจากนำตัวเสี่ยเบนท์ลีย์ไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า การตรวจเลือดอย่างเป็นทางการทางห้องแลป พบว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อเบนท์ลีย์ หรือ เสี่ยเบนท์ลีย์ มีผลเลือดประมาณแค่กว่า 10 มิลลิกรัมฯ ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมฯ


ล่าสุดหลังจากที่กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. และ พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ก็ได้ออกมาประชาสัมพันธ์ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 เวลา ประมาณ 00.38 น. รถยนต์ Bentley เฉี่ยวชนรถยนต์ของผู้อื่น เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร กม.21+200B ขาออก แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
ขอเรียนว่า กรณีดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้ให้ความสำคัญ และกำชับให้ผู้บังคับการตำรวจจราจรลงไปควบคุมดูแลเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าวด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนและสังคม

จึงขอเรียนให้ทราบ ถึงความคืบหน้าของการดำเนินการเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีดังกล่าวใน 2 ประเด็นหลัก ดังนี้
- ประเด็นที่ 1 การดำเนินคดี : เมื่อวันที่ 11 ม.ค.66 จากการที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมข้อเท็จจริง และหลักฐานเพิ่มเติม จึงได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ขับรถ Bentley ในข้อหาขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินของผู้อื่น และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส , ได้รับอันตรายแก่กายและทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถในขณะเมาสุรา (ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ให้สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ) และนำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งศาลได้พิจารณารับฝากขังตามคำร้อง
- ประเด็นที่ 2 การดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง : เนื่องจากคดีดังกล่าว ยังมีพี่น้องประชาชนในสังคมมีความสงสัยเกี่ยวกับการดำเนินการ และการใช้วิจารณญาณของพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร จึงได้ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 โดยมอบหมายให้รองผู้บังคับการตำรวจจราจรเป็นประธานคณะกรรมการ และให้รายงานผลการตรวจสอบให้ทราบภายใน 15 วัน ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบต่อไป

กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงขอเรียนให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการเพิ่มเติมในคดีดังกล่าว และขอเรียนย้ำว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะดำเนินการและเร่งรัดเกี่ยวกับการดำเนินคดีดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส และเป็นที่เชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนต่อไป
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY