เช็คอาการลูกน้อย! ศบส. 2 ประกาศหยุดเรียน หลัง ‘ไข้อีดำอีแดง’ ระบาดหนักในเด็ก เจ็บคอ-มีไข้สูง เสี่ยงติดเชื้อ
วันที่ 27 ก.พ. 2568 ศูนย์บริการสาธารสุข 2 สะพานสาม 52/9 ซอย 12 เกษมสมุทร 2/1 ถนนสายลวด ตำบลปากน้ำ อำเภอสมุทรปราการ ได้มีการประกาศขอแจ้งหยุดเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคไข้อีดำอีแดง โดยระบุข้อความว่า
“เนื่องจากนักเรียนระดับอนุบาลปีที่ 1/3 , 1/4 และ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/3 , 4/4 46 ได้รับการยืนยันจากแพทย์ว่าป่วยเป็นโรคไข้อีดำอีแดง ศูนย์บริการสาธารณสุข 2 สะพานสาม เทศบาลนครสมุทรปราการได้เสนอให้ทางโรงเรีย หยุดเรียนเนื่องจากเกิดสถาณการณ์การระบาดอีดำอีแดง ในการนี้เพื่อป้องกันการระบาดของโรค โรคไข้อีดำอีแดง เพื่อให้มีการดำเนินการควบคุมโรคที่เหมาะสม และทำการล้างทำความสะอาดห้องเรียน ของใช้ในห้องด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และเปิดเรียนตามปกติ ในวันทร์ที่ 3 มีนาคม 2568 ระหว่างช่วงหยุดเรียนขอความร่วมมือผู้ปกครองช่วยคัดกรองนักเรียนหากพบว่ามีใช้สูง ตัวร้อน เจ็บคอ ลิ้นจะนูนแดงคล้ายผลสตรอว์เบอร์รี หรือมีสิ่งที่บอกเหตุที่น่าสงสัยว่าจะติดเชื้อแบคทีเรียให้ผู้ปกครองพานักเรียนไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการ”
ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัสชนิดเอ มักจะเจอในเด็กวัยเรียน อายุ 5-15 ปี แบคทีเรียชนิดนึ้สร้างสารพิษได้ ทำให้เกิดผื่นแดงขึ้นตามตัว เชื้อนี้สามารถติดต่อผ่านทางการไอหรือจาม, การสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย น้ำมูก, การใช้ของร่วมกัน เช่น ของเล่น หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ อาการ
ผู้ป่วยมักจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์หลังติดเชื้อ
- มีไข้สูง
- เจ็บคอ อาจมีหนองหรือจุดเลือดออกที่ต่อมทอนซิล
- ผื่นแดงสากคล้ายกระดาษทราย เริ่มจากลำตัวและกระจายไปแขนขา มักไม่ขึ้นที่ใบหน้า แต่แก้มจะแดงและมีวงซีดรอบปาก
- ลิ้นแดงเป็นปุ่มๆคล้ายสตรอเบอร์รี่
- อาการอื่น ๆ เช่น ปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น และปวดท้อง
เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรียก็เลยรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ ซึ่งถ้าไม่รักษาอาจเกิดอาการแทรกซ้อน เช่น โรคไข้รูมาติก หรือหน่วยไตอักเสบเฉียบพลันได้ ถ้าพบการระบาดก็ควรให้หยุดเรียนหรือแยกตัวเด็กป่วยออกจากคนอื่นจนกว่าได้ยาปฏิชีวนะไปแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมงจึงจะไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นต่อไป
