สนามซ้อมยิงปืนที่ เยาวชนวัย 14 ปี ผู้ต้องหาคดี กราดยิงพารากอน ไปซ้อมเป็นของ กองทัพบก ล่าสุด ยืนยันว่ามาจริง แต่จำไม่ได้ว่าวันไหน
ความคืบหน้า กรณี เยาวชนวัย 14 ปี พกอาวุธปืนเข้าไปในห้าง สนามพารากอน และก่อเหตุอุกอาจกราดยิงภายในห้าง เมื่องช่วงเย็นของวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บ 5 ราย โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ และจากการสอบสวนเบื้องต้นก็พบว่า ผู้ก่อเหตุนั้นมีอาการทางจิต และมีประวัติการรักษาอาการจิตเวช แต่ไม่ได้รับยาต่อเนื่อง จึงอาจจะเป็นผลที่ทำให้มีอาการหลอน เพราะผู้ก่อเหตุนั้นเอาแต่พูดว่า จะมีคนมาทำร้าย และให้การวกไปวนมา
ล่าสุด (6 ตุลาคม 2566) อีกหนึ่งประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก กับสนามยิงปืนที่ผู้ก่อเหตุได้ไปซ้อมนั้นเป็นที่ใด และใครที่เป็นผู้ปกครองพาผู้ก่อเหตุไปซ้อม เพราะปกติแล้วกฎเกณฑ์ของสนามยิงปืนนั้นจะไม่อนุญาตให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เข้ามาที่สนามและยิงปืนคนเดียว แต่ต้องมีผู้ปกครองมาควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
ซึ่ง สนามยิงปืน ดังกล่าวที่ปรากฏในคลิปที่ผู้ต้องหาส่งไปให้เพื่อนในไลน์กลุ่ม นั้นตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นสนามซ้อมยิงปืนภายในกองทัพบก โดย ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบสนามยิงปืนของหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริง หลังมีภาพข่าวเสนอว่า เด็กชายวัย 14 ปี ที่ก่อเหตุกราดยิงในห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน มาใช้บริการที่สนามแห่งนี้
รายงานระบุว่า เด็กชายวัย 14 ปี ได้มาใช้บริการสนามยิงปืนที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนจริง แต่ไม่สามารถระบุ วัน-เดือน-ปี ได้ เนื่องจากกล้องวงจรปิดในสนามยิงปืนแห่งนี้ ไม่ได้มีการบันทึกเก็บข้อมูลเอาไว้ทั้งหมด จึงยากต่อการตรวจสอบ ทั้งนี้หน่วยต้นสังกัดได้ทำรายงานเสนอไปยัง ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงแล้ว
ทั้งนี้กฎของการใช้ สนามยิงปืน นั้นมีอยู่ 2 กรณี คือ
- 1.นำปืนมาเอง ทางสนามจะบังคับให้สมัครเป็นสมาชิกแบบรายปี และต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป และต้องใช้บัตรประชาชนในการสมัครสำหรับทำประวัติ สำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ที่พ่อแม่ผู้ปกครองอยากให้ลูกมาลองฝึก เพื่อเป็นการกีฬา แต่เวลามายิงปืน พ่อแม่ต้องมาด้วยทุกครั้ง และรับผิดชอบคนยิงด้วย โดยจะอนุญาติให้เข้ามาซ้อมยิงในช่วงเวลาที่มีคนมาซ้อมยิงไม่มาก ทางสนามจะดูเป็นกรณี ว่าคนนี้พอใช้งานปืนเป็น หรือมาฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขัน เพราะสนามจะเน้นเรื่องกีฬามากกว่า เพราะที่สนามเปิดในรูปแบบสมาคม
- 2.ผู้ที่ไม่มีปืนของตัวเองเข้ามา ต้องการมาหากิจกรรมทำ ทุกครั้งที่จะเข้ามาใช้สนามจะมีครูฝึกคอยประกบตลอดเวลา และจะสอนวิธีการใช้ปืนจนกว่าจะยิงจนกระสุนปืนหมด จากนั้นผู้ฝึกสอนก็จะนำปืนของสนามเข้ามาเก็บรักษาไว้เหมือนเดิม ส่วนกระสุนปืนจะไม่มีการขายหรือนำออกนอกสนามเด็ดขาด ซึ่งจะมีป้ายปิดไว้ชัดเจนและห้ามนำกระสุนปืนจากภายนอกเข้ามายิงในสนาม
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY
