จับถึงที่! เจ้าหน้าที่บุกโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีชื่อดัง พบผีน้อยเกาหลีใต้ 8 ราย กำลังสอนภาษาเกาหลีให้คนไทย โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน
พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมืองและชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. โดยสั่งการและกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวนเน้นลงพื้นที่ตรวจสอบป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่จากกรมการจัดหางาน ภายใต้การอำนวยการของ นายสนธยา กาลาศรี ผู้อำนวยการกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน ปูพรมตรวจสอบโรงเรียนสอนภาษาเกาหลีชื่อดังแห่งหนึ่ง รวม 2 จุด ตั้งอยู่ที่บริเวณถนนรัชดาภิเษก และอีกจุดหนึ่งบริเวณศูนย์การค้าย่านบางนา โดยได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ และ พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ พร้อมชุดปฏิบัตินำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สังกัด กก.สืบสวน บก.ตม.1 และเจ้าพนักงานกองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางานนับสิบนาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและแสดงบัตรประจำตัวขอตรวจสอบการจ้างคนต่างด้าวทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจพบสถานที่ลักษณะเป็นห้องกระจกย่อย ๆ หลายห้อง ภายในห้องเรียนมีการจัดโต๊ะ เก้าอี้ มีอุปกรณ์สื่อการเรียน การสอน เช่น หนังสือภาษาเกาหลี แบบฝึกหัดสำหรับให้นักเรียนทำ กระดานสีขาว (ไวท์บอร์ด) สำหรับผู้สอนใช้เขียนขณะสอน เครื่องรับโทรทัศน์ ติดตั้งอยู่บริเวณมุมห้องด้านหน้าชั้นเรียน สำหรับแสดงสื่อการเรียน และพบแผ่นพับโฆษณาโรงเรียนแสดงคอร์สการเรียน คิดอัตราค่าเรียนตามคอร์สประเภทต่าง ๆ หลายราคา

- ชาวเน็ตเสียงแตก! ดราม่าหนุ่มเกาหลีไลฟ์สด ไล่จับ ‘ผีน้อย’ รับเงินโดเนท
- ท้าทายระบบ! ฝรั่งเปิดบริการสปา นวด-ล้างเท้า จ.ภูเก็ต อย่างโจ่งแจ้ง
มีนักเรียนคนไทยกำลังเรียนภาษาโดยมีครูเกาหลีใต้ทำหน้าที่สอน จึงได้บันทึกภาพถ่ายเป็นหลักฐานก่อนตรวจสอบเอกสารหนังสือเดินทาง ของครูสอนภาษาที่พบในสถานที่เกิดเหตุทั้งหมด ผลการตรวจสอบพบ ครูสัญชาติเกาหลีใต้ ถึง 8 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 2 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวซึ่งได้รับการผ่อนผัน ให้เข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรได้ 90 วันโดยมิต้องขอรับการตรวจลงตรา (FREE VISA) แต่บางรายอยู่ในราชอาณาจักรโดยอาศัยเหตุผลเนื่องจากมีภรรยาเป็นคนไทย จากการสอบถาม และตรวจสอบจากฐานข้อมูลกรมการจัดหางาน ทั้ง 8 รายไม่มีใบอนุญาตทำงาน

จากการสอบสวนปากคำเบื้องต้นทั้งหมดให้การว่า พวกตนเข้ามาในประเทศไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย ต่อมาได้เข้ามารับจ้างทำงานที่โรงเรียนสอนภาษาแห่งนี้ ซึ่งมีคนไทยคือ นางสาววิภา (นามสมมติ) เป็นเจ้าของโรงเรียน และเป็นนายจ้าง โดยได้ว่าจ้างชาวเกาหลีใต้ทั้ง 8 ราย ให้ทำหน้าที่เป็นครูสอนภาษาเกาหลีให้กับนักเรียนที่สมัครเข้าเรียนเป็นรายชั่วโมง ทั้งแบบออนไลน์ และ ณ ที่ตั้ง

โดยผู้ถูกจับรายที่ทำงานมานานที่สุด ทำงานสอนภาษาเกาหลีมาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี ทั้งนี้ผู้ถูกจับส่วนใหญ่ จะได้รับเงินค่าจ้างสอนออนไลน์ได้ค่าจ้างรายชั่วโมงละ 200 บาท หากเป็นการสอน ณ ที่เรียน จะได้ค่าจ้างชั่วโมงละ 350 บาท และได้รับค่าจ้างทั้งในรูปแบบเงินสดและการโอนเข้าบัญชี จากนางสาววิภาฯ ซึ่งเป็นนายจ้าง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับชาวเกาหลีใต้ทั้ง 8 รายทราบว่า “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 และแจ้งข้อกล่าวหานางสาววิภาฯ ในฐานะนายจ้าง ในข้อหา “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2561 จากนั้นควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวกล่าวสอบถาม พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 ซึ่งได้กรุณาให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากเบาะแสสำคัญของพี่น้องประชาชนที่เป็นหูเป็นตา และเป็นความร่วมมือในการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็งระหว่างสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองทะเบียนจัดหางานกลาง และคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน

นอกจากนี้ยังขอฝากประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชนผ่านผู้สื่อข่าวว่า การกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว เป็นความผิดตามกฎหมาย และเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตระหนักและกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องและเต็มกำลังความสามารถ ดังที่ปรากฏในสื่อกระแสหลักและช่องทางอื่นๆ เสมอมา หากพี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองโดยตรง หรือที่ หมายเลข 1178