เด็กสอบติดโรงเรียนดัง แต่ถูกตัดสิทธิ เพราะโรงเรียนเก่าออกเอกสารผิด

สรุปใครผิด เด็กสอบติดโรงเรียนดัง แต่ถูกตัดสิทธิ เหตุเพราะโรงเรียนเก่าออกเอกสารผิดวัน นักเรียนขอร้องให้ออกใหม่ โรงเรียนปฏิเสธอ้างต้องทำต้ามกฎ

จากกรณี ข่าวโซเชียล เรื่อง เด็กสอบติดโรงเรียนดัง แต่ถูกตัดสิทธิ เพราะโรงเรียนเก่าออกเอกสารผิดวัน สืบเนื่องจาก มีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวรายหนึ่งอ้างเป็นครูผู้ฝึกสอน เล่าเรื่องราวของนักเรียนที่สอบติดโรงเรียนแถวหน้า แต่ถูกตัดสิทธิว่า “น้องสอบติดโรงเรียนแถวสนามหน้าเมืองได้ลำดับที่ 15 เตรียมเอกสาร ใบปพ. 1 ใบรับรอง ทุกอย่างครบ พร้อมมอบตัวในวันที่ 9 เมษายน 2568 ทางโรงเรียนที่สอบได้ แจ้งว่า ใบ ปพ.1 ไม่สมบูรณ์ วันที่ผิด เพราะลงวันที่ 11 เมษายน 2568 โรงเรียนที่สอบได้ให้เวลาไปเอาเอกสารมาใหม่ภายใน 16:30 น.”

น้องกลับมาติดต่อโรงเรียนเก่า เพื่อแจ้งเปลี่ยนวันที่ ขอให้ทางโรงเรียนเก่าช่วยออกให้ใหม่ ทางโรงเรียนแจ้งว่า ไม่ได้ เพราะต้องรอให้เด็กแก้ศูนย์ครบ ถึงจะออกได้พร้อมกัน และทางโรงเรียนต้องทำตามกฎ เด็กต้องไปแจ้งโรงเรียนที่สอบได้ว่า ขอผ่อนผันเอกสาร “เด็กกลับไปยังโรงเรียนที่สอบได้ ขอผ่อนผัน และแจ้งข้อมูลที่ได้รับจากโรงเรียนเก่ามา โรงเรียนใหม่แจ้งว่า ผ่อนผันไม่ได้ เพราะเอกสารผิด ทางเด็กจึงขอความเห็นใจว่า ช่วยรอได้ไหม เพื่อไปขอร้องโรงเรียนเก่าอีกรอบ”

เด็กสอบติดโรงเรียนดัง แต่ถูกตัดสิทธิ โรงเรียนเก่าออกเอกสารผิด (1)

เด็กสอบติดโรงเรียนดัง แต่ถูกตัดสิทธิ เพราะเอกสารโรงเรียนเก่า

ครูเล่าอีกว่า เด็กไม่ได้รับโอกาสนั้นจากทางโรงเรียนใหม่ เด็กเดินทางไปติดต่อ สช. ทาง สช.ได้ทำการโทรหาโรงเรียนเก่า ให้ช่วยออกให้เด็ก เพื่ออนาคตของเด็กได้ไหม ทางโรงเรียนเก่าแจ้งว่า ต้องทำตามกฎ ต้องออกให้วันที่ 18 เมษายนเท่านั้น ซึ่ง 18 เมษายนนี้ โรงเรียนทั้งหมดในจังหวัดนคร ไม่มีโรงเรียนไหนเปิดสอบ และ มอบตัวได้แล้ว การออกใบ ปพ.ให้เด็กในวันนี้ เด็กไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว เด็กเข้าพบ สพม.และทาง สพม.แจ้งว่าโรงเรียนที่สอบได้ ได้ทำการตัดสิทธิ์เด็กแล้ว ไม่เหลือที่ว่างแล้ว จึงขอชื่อน้องไว้เพื่อทำการช่วยเหลือในอนาคตต่อไป

“ในขณะที่พิมพ์ ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่า เด็กคนหนึ่งที่ตั้งใจอย่างมาก พยายามสุดตัว สุดกำลัง ที่จะสอบเข้าโรงเรียนที่หวังให้ได้ เค้าสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ แต่ต้องถูกตัดสิทธิ์ไปในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ เด็กไว้ใจโรงเรียน เชื่อว่าเอกสารที่ทางโรงเรียนให้มาครบถ้วนสมบูรณ์ เชื่อใจว่าเอกสารที่อยู่ในมือจะเป็นใบเบิกทาง ที่ทำให้ตัวเองได้อยู่โรงเรียนที่หวังไว้ แต่สุดท้ายเด็กคนหนึ่งถูกคัดชื่อออก นี่คือสิ่งที่น้องอิคคิว จำใจต้องก้มหน้ายอมรับ” ครูกล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ครูรายนี้ยังเล่าเพิ่มอีกว่า สิ่งที่ทำมา ไม่ได้มาด้วยความฟลุ๊คทำข้อสอบได้เลย น้องใช้ความพยายามอย่างมาก ด้วยตัวเอง ไม่มีเงินติวเหมือนคนอื่น อ่านทุกวิชาด้วยตัวเอง ด้วยสองมือ หนึ่งใจของน้องเองเลย “ตอนนี้ทางน้องได้ถูกทางโรงเรียนต่อว่ามา และกล่าวหาว่า ปลอมแปลงเอกสาร ยื่นใบ ปพ.1 ปลอม คนที่กล่าวหาน้อง สามารถขอดูหลักฐานที่เราได้นะคะ เรายินดีแสดงให้ดูค่ะ อย่าเพิ่งโจมตีน้อง กล่าวหาน้องเลยค่ะ น้องไม่สามารถปลอมแปลงตราปั๊มโรงเรียน และ ลายเซ็นต์รอง ผอ.ได้เลยค่ะ”

“ชี้แจงเพิ่มเติมจากที่ถามมา เนื่องจากเมนต์เยอะมากเลยค่ะ อาจจะตอบได้ไม่ครบ ขอตอบในเมนต์นี้นะคะ ทางโรงเรียนกำหนดรอบจบทั้งหมด 3 รอบค่ะ
-รอบที่ 1 วันที่ 31 มีนาคม 2568
-รอบที่ 2 วันที่ 25 เมษายน 2568
-รอบที่ 3 วันที่ 15 พฤษภาคม 2568
น้องจบเป็นรอบที่ 2 ค่ะ ทางโรงเรียนจึงออกในใบ ปพ.1 ว่า จบวันที่ 11 เมษายน 2568 แต่ในใบรับรอง ออกเป็นวันที่ 9 เมษายน 2568 ทางโรงเรียนเดิมได้ออกใบรับรองดังกล่าวมา และ ให้ใบ ปพ.1 ฉบับที่ไม่มีเลขหัวมา กับน้อง เพื่อยื่นให้โรงเรียนที่สอบได้ แต่ทางโรงเรียนที่สอบได้ ได้แจ้งมาว่า
1. ใบ ปพ.1 ไม่มีเลขหัว
2. วันที่ ในใบปพ.1 ไม่ตรงกับใบรับรอง ยังผิดอยู่
น้องจึงเดินทางไปขอให้โรงเรียนเดิม ออกให้ใหม่ ทางโรงเรียนจึงแจ้งมาว่า สามารถใช้ใบรับรองที่ให้ไปได้เลย เพราะทางโรงเรียนที่สอบเข้าได้ สามารถผ่อนผันได้ *อ้างอิงจากในประกาศโรงเรียน

ซึ่งคำถามที่ว่า
ถาม : น้องยังติดศูนย์ไหม
คำตอบ คือ : น้องไม่ติดแล้วค่ะ
ถาม : น้องแก้เสร็จทุกวิชา แล้วไหม
ตอบ : แก้เสร็จทุกวิชาแล้วค่ะ
ถาม : น้องเรียนจบแล้วใช่ไหม
ตอบ : แล้วจบแล้วค่ะ เพราะทางโรงเรียนได้ออกใบรับรองจบมาแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน เพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทางทีมข่าว BrightTV จะมารายงานให้ทราบอีกครั้ง