ลุงแท็กซี่วัย 70 ปี ไร้ญาติ ถูกวัยรุ่นรุมทำร้าย โครงหน้าหัก เจ็บสาหัส!

จากกรณีเพจ Facebook อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 เผยแพร่เรื่องราวลุงแท็กซี่อายุราว 70 ปีถูกทำร้าย ระบุว่า “ทำร้ายคุณลุงอายุ 70 ทำไม..เกิดอุบัติเหตุทำไมไม่แจ้งเจ้าหน้าที่ พี่คิมครับ ลุงไม่มีญาติอายุ 70 โดนทำร้ายหาเงินเลี้ยงตัวเองไปวัน ๆ อยากให้เป็นสื่อกลางให้หน่อยนะครับ ลุงแท็กซี่โดนทำร้ายโครงหน้าหักกรามแตก 2 ข้างตอนนี้ยังไม่ออกจากโรงพยาบาล ไม่มีโทรศัพท์ไม่มีญาติ”

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังที่เกิดเหตุ บริเวณแยกอรุณอมรินตรงมาจากสะพานพระราม 8 และได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณจักรอายุ 50 ปี เป็นไรเดอร์ซึ่งขับผ่านช่วงเวลาที่เกิดเหตุเผยว่า ช่วงค่ำของวันนั้นตนได้ไปรับออเดอร์แล้วขับผ่านสังเกตุเห็นว่ามีวัยรุ่นขับจักรยานยนต์ คาดว่า น่าจะมาสองคนกำลังโวยวายลงแท็กซี่ซึ่งมีอายุมากแล้ว

ตนก็คิดว่าคงจะมีปัญหาเรื่องการขับขี่รถจึงคิดว่าแค่จะมีการต่อว่ากันไม่ได้จะมีการลงไม้ลงมือจึงขับไปรับออเดอร์ต่อจนกระทั่งมาทราบจากผู้สื่อข่าวว่าแท็กซี่คนดังกล่าวถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งนี้ตนก็อยากเตือนว่าให้ผู้ชายรถถนนให้ใจเย็นกันหน่อยมีอะไรก็ให้ยอมกันบ้างจะได้ไม่เกิดเหตุรุนแรง

• สลด! ชายสติไม่ดี คลั่ง คว้าปืนกราดยิง บ้านโนนตาแก้ว เจ็บ 1 ดับ 1
• อีกราย! แก๊งไม่อาบน้ำ อุบัติเหตุซ้ำ แขนขาหักผิดรูป นอนดิ้นกลางถนน
• พ่อเลี้ยงใจสลาย! ตามหาลูกนาน 3 วัน สุดท้ายพบเป็นศพ รมควันดับในรถ

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์ พันตำรวจเอกพายัพสมบูรณ์ ผกก.สน. บางยี่ขัน เผยว่า เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 19 ที่ผ่านมา ญาติผู้เสียหายได้มาแจ้งความเมื่อวันที่ 22 พ.ย ที่ผ่านมา ว่า นายเหิม ลุงแท็กซี่คนดังกล่าวถูกทำร้ายและคู่กรณีได้หลบหนีไป จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้โดยมีลักษณะโวยวาย

ต่อมาได้ควบคุมตัวให้มาสงบสติที่ สน.บางยี่ขัน และทำประวัติแต่อำนาจควบคุมตัวนั้นยังไม่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เนื่องจากผู้เสียหายยังไม่สามารถให้การได้ เพราะกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราวโดยทราบชื่อ คือ นายไกด์ อายุ 23 ปี

เบื้องต้น ผู้เสียหายได้ให้ปากคำที่โรงพยาบาลโดยมีพนักงานสอบสวนไปขอปากคำที่โรงพยาบาลทั้งนี้ยังคงต้องรอผลจากแพทย์เพื่อจะแจ้งข้อกล่าวหา โดยในวันพรุ่งนี้จะเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำที่ สน. และคาดว่าจะนำส่งฝากขังที่ศาลอาญาตลิ่งชันในวันพรุ่งนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป