ปลอดภัย! หนุ่มโดนสาวนกต่อหลอกไปเป็นแก๊งคอลฯ ที่ กัมพูพา ถูกบังคับให้ยินยอมทำงาน โดนกระบองไฟฟ้าช็อต-ทำร้ายร่างกาย ยันไม่ได้โกหกพร้อมให้ตรวจสอบ
จากกรณีแม่ร้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.จรเข้น้อย ให้ช่วยลูกชาย วัย 21 ปี ถูกสาวนกต่อหลอกให้ดื่มยาสลบ พอรู้สึกตัวอีกทีมาอยู่ที่ ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ลูกชายพิมพ์แชตมาบอกว่า ถูกสั่งให้เป็นคอลเซ็นเตอร์ให้โทร. หลอกคนไทย ถ้าอยากจะกลับเมืองไทย ก็ต้องนำเงินจำนวน 60,000 ดอลล่าร์ หรือ 2 ล้านบาท มาไถ่ตัว ถ้าไม่มีก็ต้องทำงานใช้หนี้ไปจนครบ 9 เดือนนั้น
ล่าสุด วันนี้ 7 ม.ค. 68 นายเจตน์สฤษฏ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกลวง ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้สื่อมวลชนฟังว่า ก่อนที่ตนจะถูกหลอกไปประเทศกัมพูชา มีผู้หญิงคนทักมาหาตน โดยใช้รูปของ นางสาวอุ๋งอิ๋ง ทักมาคุย และชวนไปทำงานที่ จ.สระแก้ว ตนจึงสนใจและขอเดินทางไปดูหน้างานก่อน จนได้นัดตกลงกัน และมีรถแท็กซี่มารับตนในวันที่ 25 ม.ค. แต่พอตนขึ้นรถตนก็หลับเลย เนื่อจากเพบียจากการทำงาน จนถึงอรัญประเทศประมา 18.20 น.

จากนั้นก็มีมอไซค์ขับมารับตน และพาตนเข้าไปในป่า ซึ่งตอนนั้นตนกลัวมาก แต่ก็ไม่สามารถหนีหรือทำได้ จนข้ามไปกัมพูชาโดยเรือ และขึ้นมอไซค์ไปอีกต่อนึง โดยคนขับที่มาส่งบอกตนว่า ’ไม่ต้องถามอะไร‘ ตนได้แต่ทำตามที่เขาบอก พอข้ามไปฝั่งปอยเปตแล้ว ก็มีรถมอไซค์ และตุ๊ก ๆ อีกสองคันขับมารับตนเป็นทอด ๆ จนถึงหน้าบริเวณบริษัทเป็นตึกความสูงประมาณ 18 ชั้น มีกำแพงสูงล้อมด้วยลวดหนาม

จากนั้นก็มีคนมาสัมภาษณ์ตน โดยบังคับให้ตนพูดประมาณว่ายินยอมมาทำงานที่นี่ ตอนนั้นตนอยากกลับมาก แต่ต้องยอมทำตามเพื่อความอยู่รอด จนในวันเช้าวันถัดมา ตนถูกพาเดินทางไป พนมเปญ ซึ่งก็มีเหยื่อคนอื่นไปพร้อมตนด้วย จนไปถึงก็สัมภาษณ์งานอีกรอบ และบังคับให้ตนพูดลักษณะว่ายินยอมว่ามาทำงานที่นี่ แต่ยังดีที่ตนใช้โทรศัพท์ได้ ตนจึงทักไปขอความช่วยเหลือจากพี่ชาย จนข่าวออก ทำให้คนร้ายลงโทษตน โดยใช้กระบองไฟฟ้าช็อต และทำร้ายร่างกายตน และบอกว่า ‘ต่อให้มึงแจ้งความ ก็ไม่มีใครช่วยมึงได้’ แต่โชคดีที่ตนเจอเฮียชาวอังกฤษที่เห็นใจตน และไถ่ตัวตนออกมาให้

โดยค่าตัวตนเอง 1 แสนบาท จนเช้าวันต่อมาตนก็นั่งรถตุ๊ก ๆ ไปหน้าด่าน และเดินเนียนตามคนกัมพูชาข้ามกลับไทยทางเส้นทางธรรมชาติ จนเรียกแท็กซี่กลับมาบ้าน สำหรับกระแสสังคมที่มีการกล่าวหาว่าตนพูดโกหกเรื่องที่ถูกหลอกไปกัมพูชานั้น ตนยืนยันว่าเป็นความจริง ใครไม่โดนแบบตนไม่มีทางรู้ และต่อจากนี้ใครจะพูดอย่างไรก็ช่าง เพราะคนสมัครใจไปเองคงไม่เอาเสื้อผ้าไปตัวเดียว และต้องทนใส่ชุดเดิมเป็นอาทิตย์ หากเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบตนก็ยินดี