ทีมสัตวแพทย์-เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ช่วยเสือโคร่งเพศเมีย ติดบ่วงดักสัตว์นอกเขตอุทยานแห่งชาติพุเตยรอดตายสำเร็จ หลังค้นหานาน 3 วัน
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โดยนายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เปิดเผยถึงปฏิบัติการช่วยชีวิตเสือโคร่งจากผืนป่าห้วยขาแข้งที่บาดเจ็บจากบ่วงดักสัตว์นอกเขตอุทยานแห่งชาติพุเตย โดยได้ระดมทีมค้นหาและช่วยเหลือนานกว่า 3 วัน จนประสบความสำเร็จ
ภารกิจช่วยเหลือเสือโคร่งบาดเจ็บที่อุทยานแห่งชาติพุเตยประสบความสำเร็จ เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ร่วมกับสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าเขาประทับช้างและบึงฉวาก ได้ระดมกำลังค้นหาเสือโคร่งที่พบร่องรอย และเสียงขู่

- หดหู่! เจ้าตูบเพศเมียเศร้า นอนเฝ้าศพเจ้านาย หลังเสียชีวิตในห้องพัก
- เศร้า! เจ้าของโดนสุนัขที่เลี้ยง กัดแขนขาด นอนจมกองเลือดเสียชีวิตคาบ้าน
- เกือบไป! เด็ก-ควาญ เกือบโดนเหยียบดับ หลังลอดใต้ท้องช้างเสริมสิริมงคล
หลังจากค้นหาอย่างเข้มข้นด้วยการล้อมพื้นที่และใช้โดรน เวลา 18.30 น. พบเสือโคร่งเพศเมีย อายุไม่เกิน 7 ปี จากผืนป่าห้วยขาแข้ง บาดเจ็บที่ข้อเท้าหน้าขวาจากลวดสลิง ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการรักษาเบื้องต้น โดยตัดลวดสลิง ทำความสะอาดแผล ให้ยาฆ่าเชื้อ สารน้ำและวิตามิน ก่อนเคลื่อนย้ายไปรักษาต่อที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าบึงฉวาก เวลา 20.45 น.

หลังเสือฟื้นตัวดี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ระบุว่า การพบเสือโคร่งตัวนี้แสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อของระบบนิเวศ แต่ก็สะท้อนปัญหาการวางบ่วงดักสัตว์ ซึ่งจะได้รับการติดตามรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เสือโคร่งกลับคืนสู่ธรรมชาติอย่างปลอดภัย