ธุรกิจสวนน้ำ-สวนสนุก สุดซบเซา หลังเศรษฐกิจไม่ดี คนเที่ยวน้อยลง กำลังซื้อร่วง 40% เตรียมอ้อนรัฐปลดล็อกเงินทุน เติมสภาพคล่อง
นายวุฒิชัย เหลืองอมรเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทสยามพาร์คซิตี้ ผู้ประกอบกิจการสยามอะเมซิ่งพาร์ค (สวนสยาม) และนายกสมาคมสวนสนุกและสวนพักผ่อนหย่อนใจแห่งประเทศไทยและประธานสมาคมผู้ประกอบการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมสวนสนุกและสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจสวนน้ำสวนสนุกยังมีดีมานด์ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจ ภาระหนี้ รายได้ที่ลดลง ทำให้กำลังซื้อไม่คึกคักปรับตัวลดลง 40% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิดและมีแนวโน้มซึมต่อเนื่องไปถึงกลางปี 2568 เนื่องจากคนยังไม่มั่นใจเศรษฐกิจ จึงยังประหยัดการใช้จ่าย
นายวุฒิชัยกล่าวว่า ขณะที่ผู้ประกอบการเองในช่วงที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องสภาพคล่องบ้าง จำต้องควักเนื้อเพื่อประคับประคองธุรกิจ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนเรื่องสภาพคล่อง โดยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดกลางสามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ เพื่อนำมาพัฒนาลงทุนธุรกิจเพิ่มเติมได้ นอกเหนือจากที่รัฐบาลจะมีมาตรการแก้หนี้ให้กลุ่มเปราะบางและกลุ่มเอสเอ็มอีรายย่อยแล้ว
“โดยรัฐบาลสามารถพิจารณาสนับสนุนเป็นรายธุรกิจหรือบริษัทที่ทำมานาน ที่มีการจ้างงานจำนวนมาก มีทรัพย์สินและมีศักยภาพจะกลับมาเดินหน้าธุรกิจต่อได้ เพราะเมื่อธุรกิจสามารถเดินหน้าได้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน เนื่องจากด้วยหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ภาครัฐคงไม่มีความแข็งแรงมากพอที่จะช่วยได้ทุกคนและทุกธุรกิจ” นายวุฒิชัยกล่าว
นายวุฒิชัยกล่าวว่า สำหรับสวนสยามได้ปรับตัวโดยลดค่าใช้จ่ายและจัดโปรโมชั่นให้สอดรับกำลังซื้อของคนในปัจจุบัน โดยลดค่าเข้าจาก 1,000 บาท เหลือ 240 บาทสำหรับผู้ใหญ่ สามารถเล่นได้ทุกอย่าง เปิดให้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 และเริ่มใช้ถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดีและคึกคักขึ้น มีผู้เข้ามาใช้บริการวันเสาร์และอาทิตย์อยู่ที่ 4,000-5,000 คนต่อวัน ทำให้ยังพอมีรายได้มาจ่ายหมุนเวียนไปได้บ้างสำหรับจ่ายเงินเดือนพนักงานและดูแลเครื่องเล่นให้พร้อมบริการ แต่ก็ยังมีความตึงตัวอยู่