PM 2.5 เกิดขึ้นมานานมากแล้วในประเทศไทยแต่เริ่มเป็นที่รู้จักและเริ่มมีการให้ความสนใจเมื่อปี 2562 เนื่องจากในปีนั้นเกิดปรากฏการณ์ฝุ่นปกคลุมในหลายพื้นที่จนหน่วยงานรัฐและสื่อมวลชนต้องออกมาให้คำตอบกันประชาชนว่าสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้คืออะไร
ตั้งแต่ปรากฏการณ์ฝุ่นปกคลุมหลายพื้นที่ในปี 62 ปัญหาของฝุ่นก็กลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูหนาวไปฤดูร้อน PM2.5 มีชื่อเต็มคือ Particulate matter with diameter of less than 2.5 micron เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนเป็น 1 ใน 8 ของตัววัดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ ซึ่ง PM2.5 เกิดจาก
1 สภาพอากาศเปลี่ยน ทำให้อากาศนิ่ง ลมน้อย ฝุ่นสะสมตัวได้มาก
2 ฝุ่นจากการจราจร เขม่าไอเสียรถยนต์
3 ฝุ่นจากงานก่อสร้าง ทั้งรถไฟฟ้า อุโมงค์ คอนโดมิเนียม ฯลฯ
4 ฝุ่นจากการเผาในที่โล่งแจ้ง เช่น เผาหญ้า
5 ฝุ่นจากการผลิตโดยภาคอุตสาหกรรม

ฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กมาก จนสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ถึงแม้จะไม่ได้สร้างอันตรายได้อย่างเฉียบพลัน แต่สามารถเป็นตัวกลางพาสารอื่นๆ เข้าไปสะสมในปอดได้ด้วยการให้สารเหล่านั้นเคลือบบนผิวของฝุ่นเช่น สารก่อมะเร็ง สารโลหะหนัก เป็นต้น การสะสมสารเหล่านี้ในร่างกายเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้
ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อระบบหายใจ
ฝุ่น PM 2.5 จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อร่างกาย เมื่อเราสูดฝุ่นละอองเหล่านี้เข้าไปแน่นอนว่าอนุภาคของฝุ่นเล็กขนาดนี้ ทำให้สามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายเราได้อย่างง่ายดาย ผ่านโพรงจมูก และส่งผลให้เกิดหลายอาการเลย เช่น
- ทำให้เกิดอาการ ไอ จาม หรือเป็นภูมิแพ้ได้
- กระตุ้นคนที่เป็นภูมิแพ้ฝุ่น ให้เกิดอาการโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหลอดเลือดและหัวใจเรื้อรัง อาการกำเริบรุนแรงไปกว่าเก่าอีกด้วย
- ยังเสี่ยงที่จะเป็นโรคปอดเรื้อรัง หรือมะเร็งปอดได้ อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้เมื่อฝุ่น PM 2.5 สะสมในร่างกายเราแบบระยะยาว เพราะฝุ่น PM 2.5 นั้นประกอบไปด้วยสารก่อมะเร็งมากมาย เช่น ปรอท แคดเมียม โลหะหนัก เป็นต้น
การป้องกันระบบหายใจของตัวเองจากฝุ่น PM2.5 ที่ดีที่สุดคือการสวมหน้ากากอนามัยรุ่น N95 เนื่องจากเป็นรุ่นที่ทำมาเพื่อป้องกันมลพิษโดยเฉพาะ สามารถป้องกันได้มากกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป แต่ถ้าหาซื้อไม่ได้ สามารถใช้หน้ากากอนามัยแบบธรรมดาซ้อนด้วยทิชชู่สามชั้นและต้องหมั่นเปลี่ยนทิชชู่บ่อยๆ เพื่อการป้องกันที่ดีขึ้น และหากพบว่ามีอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์โดยด่วน
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาระยะยาวนั้นต้องได้รับการร่วมมือจากในหลายภาคส่วนโดยเฉพาะในส่วนของด้านอุตสาหกรรมที่ต้องปรับปรุงมาตรฐานการระบายปริมาณการมลพิษ โดยเปลี่ยนจากการกำหนดปริมาณไอเสียมาเป็นปริมาณการระบายแทน ในส่วนของภาคประชาชนก็สมารถช่วยลดปัญหาได้ด้วยการหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว เพื่อลดการเผาไหม้ และเรื่องนี้ควรได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเป็นเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนและถาวร