เลือกตั้งสหรัฐ —- ในวันที่ 3 พ.ย. 63 ตามเวลาของสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันที่ 4 พ.ย.63 ตามเวลาในไทย ชาวสหรัฐฯจะได้ร่วมกันตัดสินอนาคตของประเทศครั้งสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยการชิงเก้าอี้ ประธานาธิบดีสหรัฐครั้งนี้เป็นการชิงชัยระหว่างประธานาธิบดี ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งจากพรรครีพลับลิกัน และนายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งจากพรรคเดโมแครต โดยตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผู้สมัครทั้ง 2 ต่างแสดงวิสัยทัศน์ และนโยบายต่างๆเพื่อช่วงชิงคะแนนนเสียงจากชาวสหรัฐ โดยนโยบายของผู้สมัครทั้งสองแบ่งได้ด้านๆดังนี้
นโยบายการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด
ทรัมป์
– ตั้งคณะทำงานป้องกันโควิด19 เมื่อช่วงปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทรัมป์ระบุว่าจะมุ่งเน้นไปที่เรื่องความปลอดภัย และเปิดประเทศ และได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการรักษาและวัคซีนป้องกันโควิด19 ด้วยการให้งบประมาณสนับสนุน 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ไบเดน
– มีแผนจัดตั้งโครงการติดตามผู้ติดเชื้อ
– เตรียมจัดตั้งศูนย์ติดตามอย่างน้อย 10 แห่งในทุกรัฐ
-บริการตรวจโควิด19ให้กับประชาชนทุกคน พร้อมกับสนับสนุนมาตรการบังคับใส่หน้ากากทั่วประเทศ
นโยบายด้านสภาพอกาศ
ทรัมป์
– ตั้งข้อสงสัยปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง
– มุ่งเน้นการทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไป โดยเตรียมเพิ่มการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ
– ไม่เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
-เดินหน้าถอนสหรัฐฯจากความตกลงปารีส ซึ่งเป็นความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อกำหนดมาตรการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยสหรัฐฯมีแผนที่จะถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวอย่างเป็นทางการในปีหน้า
ไบเดน
– จะนำสหรัฐฯกลับเข้าสู่ความตกลงปารีส หากได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
– มีแผนที่จะให้สหรัฐฯลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2050 และสนับสนุนการลงทุนในพลังงานสะอาด

เลือกตั้งสหรัฐ โค้งสุดท้าย! ชาวสหรัฐสร้างประวัติศาสตร์ แห่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าเกือบ 100 ล้านคน
นโยบายด้านเศรษฐกิจ
ทรัมป์
– มีแผนสร้างตำแหน่งงาน 10 ล้านตำแหน่งภายใน 10 เดือนสร้างธุรกิจขนาดเล็กให้ได้ 1 ล้านแห่ง เสนอลดภาษีรายได้ และเตรียมเงินลดหย่อนภาษีให้บริษัท ที่สามารถรักษาตำแหน่งงานให้กับชาวอเมริกา
-ยกเว้นภาษีสำหรับครอบครัวชนชั้นกลาง
ไบเดน
– เตรียมขึ้นภาษีให้กับผู้ที่มีรายได้สูง ที่มีรายได้กว่า 400,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 12 ล้านบาทต่อปี
-อาจหาวิธีลดสภาษีสำหรับคนรายได้น้อย
– ขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำเป็น 15 ดอลลาร์ หรือกว่า 460 บาทต่อชั่วโมง
– ชูนโยบาย Buy American ซึ่งเป็นโครงการมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยตรง ผ่านการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทคโนโลยีสมัยใหม่ อย่างเทคโนโลยี 5G, ยานยนต์ไฟฟ้า, พลังงานสะอาด และปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
เช็คเลย! 7 ข้อมูล น่ารู้สำหรับการ เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
โจ ไบเดน นักการเมืองผู้ผ่านมรสุมชีวิต จนคิดฆ่าตัวตาย สู่ผู้ท้าชิงทรัมป์ในศึกเลือกตั้งสหรัฐ

นโยบายด้านต่างประเทศ
ทรัมป์
– ให้คำมั่นว่าจะลดจำนวนทหารสหรัฐฯที่อยู่ในต่างแดน และยังคงเดินหน้าทุ่มงบประมาณด้านกลาโหม
– สานสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศที่เป็นพันธมิตร และรักษาความสัมพันธ์ด้านการค้ากับจีน
– จะทบทวนข้อตกลงการค้าที่สหรัฐเคยทำไว้แต่ทรัมป์เห็นว่า สหรัฐเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เช่นเดินหน้ายกเลิกแผนเข้าร่วมภาคีข้อตกลงทีพีพี และรื้อข้อตกลงการค้าเสรีแห่งอเมริกาเหนือ หรือนาฟต้า ที่ทำไว้กับเม็กซิโกและแคนาดา
– เดินหน้าเจรจาการค้ากับประเทศคู่ค้าที่สหรัฐเสียเปรียบดุลการค้า โดยเฉพาะกับจีน ที่มีการตั้งกำแพงการค้าสินค้าจีนมากขึ้น
ไบเดน
–ให้คำมั่นว่าจะปรับปรุงความสัมพันธ์กับกลุ่มประเทศที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐ
– มีแนวโน้มเลิกนโยบายแข็งกร้าวกับประเทศคู่ค้า ที่จะทำให้สหรัฐถูกโดดเดี่ยว
– มุ่งเน้นให้สหรัฐมีบทบาทสำคัญในการรักษาเสรีภาพโลก และรักษาผลประโยชน์ของประเทศด้วย

นโยบายต่อภูมิภาคอาเซียน ทั้งทรัมป์และไบเดนถือว่าไม่ต่างกันมาก เนื่องจากภูมิภาคเซียนถือเป็นภูมิภาคสำคัญและเป็นภูมิศาสตร์สำคัญที่ใกล้กับจีน
ทรัมป์
– จะให้ความสำคัญเรื่องข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ เขื่อนแม่น้ำโขง ที่สหรัฐฯ กล่าวหาว่า จีนสร้างเขื่อนเพื่อควบคุมต้นน้ำ จนทำให้ประเทศอาเซียนที่อยู่กลางน้ำและปลายน้ำต้องเจอกับภัยแล้ง
ไบเดน
– มีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับอาเซียนมากขึ้นเหมือนกับสมัยอดีตประธานาธิบดีโอบามา
– จะนำสหรัฐเข้าร่วมภาคีข้อตกลง TPP ใหม่อีกครั้ง
โจ ไบเดน นักการเมืองผู้ผ่านมรสุมชีวิต จนคิดฆ่าตัวตาย สู่ผู้ท้าชิงทรัมป์ในศึกเลือกตั้งสหรัฐ
#โจไบเดน #ทรัมป์ #เลือกตั้งสหรัฐ #ผลเลือกตั้งสหรัฐ #JoeBiden #ElectionDay #Election2020 #DonaldTrum #USElections2020